Recent Search
    Create an account to bookmark works.
    Sign Up, Sign In

    Tsukidayoes

    ☆quiet follow Send AirSkeb request Yell with Emoji 💖 👍 🎉 😍
    POIPOI 13

    Tsukidayoes

    ☆quiet follow

    แบบร่าง เจ้าโซมุน ลูกคนแรกของเจ้าช็อง เอยูเดียวกันกับช็องฉาวงามนะคะ

    My Mother Is Plum Blossom Sword Saintเริ่มแรกที่ลืมตาตื่นขึ้น ช็องโซมุนจำได้ว่าเขาเป็นเพียงแค่เด็กน้อยธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น

    อาศัยอยู่ในหมู่บ้านสงบเสงี่ยมแห่งหนึ่งใกล้ส่านซี ชีวิตเฉกเช่นชาวบ้านในเมืองเล็กนั้นมีความสุขยิ่งนัก แม้มีอายุมิมากนักท่ามกลางผู้คน ทว่าเพราะเช่นนี้แล เขาถึงได้รับสายตาเอ็นดูอยู่เสมอ

    ในวันวันหนึ่งของช็องโซมุนมิค่อยมีอันใดมากนัก นอกจากเดินออกไปเล่นกับเด็กคนอื่น บางครั้งก็ไปเกาะช่วยเหลืองานของยายท่านหนึ่ง ไม่ก็คอยจับด้ามไม้กวาดมาทำความสะอาดเรือน

    หลายคนมักกล่าวว่าเขาใช้เวลาวัยเยาว์ได้มิคุ้มค่าเสียเท่าไรนัก แทนที่จะนำช่วงเวลาเหล่านั้นแสวงหาความสุขตนเอง ทว่ากลับนำมาแบ่งเบาภาระให้ผู้อื่นเสียอย่างนั้น แต่ช็องโซมุนก็เพียงกลั้วหัวเราะกลับไปกับคำนั้น อย่างมิคิดอันใดมาก

    ผู้ใดจะรู้เล่าว่า— ความเสียใจจะตามมาภายหลัง

    ช็องโซมุนเคยรู้สึกระอาที่ได้ฟังคำของคนเหล่านั้นปากแล้วปากเล่า ทว่าครั้นกวาดตามองซากศพไร้ลมหายใจรอบกาย เขากลับหวังจะได้ยินถ้อยคำนั้นอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ได้ให้เขาได้รู้ว่าภาพตรงหน้าแค่ลวงตา มิใช่ความเป็นจริง

    ถึงยามนั้นยังเด็กมาก — จึงยังมิรู้ว่าหยาดโลหิตไหลลงคมดาบของโจรป่าหมายความว่าอย่างไร — ก็จริง ทว่าก็มิได้ไร้เดียงสาเสียจนโง่เขลาไปเผชิญหน้ากับคนเหล่านั้นโดยตรง คาดไปว่าหากออกจากที่ซ่อนไป ประเดี๋ยวมิช้าก็เร็ว ร่างกายของเขาคงถูกแทงจนดับมิต่างจากผู้คนในหมู่บ้านนี้แน่

    เฝ้ามองลมหายใจของมารดาโรยริน เฝ้าฟังเสียงร่ำไห้ของหญิงชรา เฝ้าสูดกลิ่นโลหิตคละคลุ้ง ช็องโซมุนรู้สึกสะอิดสะเอียนเหลือเกิน

    สองมือป้องปากมิให้อาเจียนออกมาสั่นเครือ ขอบตาชุ่มไปด้วยน้ำตาไหลลงอาบแก้ม ได้เพียงหวังให้ผู้ใดสักคนได้โปรดคุ้มครอง ได้โปรดช่วยเหลือ

    ได้โปรดให้ข้าได้ใช้ชีวิตเช่นเด็กน้อยคนหนึ่งให้คุ้มค่าด้วยเถิด

    เป็นคราแรกที่ช็องโซมุนเสียใจเหลือเกินที่คอยปัดคำของผู้คนทิ้งขว้าง หากรู้ก่อนว่าต้องตายเร็วเช่นนี้ เขาคงยอมฟังยอมเที่ยวเล่นไปวันๆ ดั่งพวกเขาว่าไปแล้ว

    ในขณะที่ดวงตาของช็องโซมุนหลับลง สะดุ้งในทุกเสียงฝีเท้าก้าวเข้าใกล้ คาดไปว่าตนคงต้องตายแล้วแน่ๆ นั้นเอง—

    —ราวกับความปรารถนาที่จะมีชีวิตได้ถูกส่งมอบให้เทพเจ้า เสียงสิ่งแหลมคมตัดแรงลมดังขึ้นทาบทับเสียงหัวเราะเย้ยหยันของโจรป่า ยามนั้นเองที่เสียงร้องขอชีวิตถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง ต่างจากเมื่อครู่ก็แค่สลับฝั่งเสียงก็เท่านั้น

    ทว่าแม้เป็นสถานการณ์น่ายินดีถึงเพียงใด ช็องโซมุนกลับยังคงนั่งหลบซ่อนด้วยความหวาดกลัวอยู่เช่นเดิม เขามิรู้แน่ชัดเสียด้วยซ้ำว่าผู้มาใหม่เบื้องนอกนั้นเป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่ หากออกไปแล้วถูกตัดศีรษะกลับมาเหมือนชาวบ้านเหล่านั้น เขาจะทำอย่างไรเล่า…

    ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรจึงจะเอาตัวรอดได้ดีเล่า

    ทันใดนั้นที่กลีบดอกเหมยร่วงลอยมาตรงหน้าช็องโซมุน ดวงตาของเด็กน้อยเบิกกว้างด้วยความแปลกใจ

    ท่ามกลางเลือดป่นเปื้อนทั่วแผ่นดินเช่นนี้ ไยสิ่งนี้จึงผลิบานในที่แห่งนี้กัน

    แม้จะขัดกับสถานการณ์ยามนี้ แต่กลับให้ความสบายใจได้อย่างน่าประหลาด…

    อย่างมิรู้ตัว มือของช็องโซมุนเอื้อมออกไปสัมผัสกับกลีบดอกเหมย มินานนักก็เป็นต้องชักมือกลับเพราะความแหลมคมของมัน เขาก้มลงมองนิ้วของตนซึ่งมีรอยของแหลมสีแดงขูดสั้นๆ จากนั้นค่อยเงยหน้ามองหาดอกเหมยอีกครั้งหนึ่ง

    ทว่าดอกเหมยกลีบนั้นลอยหายไปกับอากาศเสียแล้ว

    ขณะกำลังตกอยู่ในความสับสนนี้เอง พายุดอกเหมยก็กระหน่ำแรงขึ้นจากทางด้านหลังต้นไม้ที่เขาซ่อนอยู่ แรงเสียจนเกือบพัดทั้งลำต้นทั้งตัวเด็กน้อยให้ปลิว กลีบดอกเหมยล่องลอยไปทั่วทิศ สร้างภาพงามตาในสถานการณ์สิ้นหวังได้อย่างแปลกประหลาด

    ริมฝีปากของช็องโซมุนเผยอออกจากกันด้วยความมิอยากเชื่อ ครั้งรู้ตัวอีกครา เขาก็เกาะอยู่หลังต้นไม้ คอยมองหาต้นตอของกลีบดอกเหมยเหล่านี้เสียแล้ว

    เวลานั้นเอง… ที่ช็องโซมุนได้พบเห็นเพลงดาบระบำดอกเหมยสะกดตา ภาพของ/ท่านผู้นั้น/ที่มิว่าจะผ่านไปนานเท่าใด มั่นใจว่าจะมิมีวันหายไปจากความทรงจำอย่างแน่นอน

    สตรีนักพรตควงดาบในมือเฉกเช่นมันเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของกายนาง ชายผ้าทมิฬพลิ้วไสวกับสายลมแบ่งบานดั่งกลีบผกา ผ้าผูกผมสีเขียวอ่อนพลิกเริงระบำร่าทุกก้าวการขยับตัว

    ดาบวาดออกไปฟาดฟันศัตรู บุปผางามสะพรั่งบนปลายดาบนาง คราบโลหิตอันใดมิอาจต้อง ช่างงดงามเหนือสิ่งใด

    ช็องโซมุนสูดหายใจเข้าลึกกับภาพนั้น

    มิรู้ว่าตนเผลอเหม่อมองอยู่นานเท่าใด ทว่าพอได้สติกลับมาอีกครา ก็มีดวงตาคล้ายดอกเหมยคู่หนึ่งจดจ้องอยู่ตรงหน้าเสียแล้ว

    เขาพยายามขยับปากออก แต่มิว่าทำเช่นไรก็มิสามารถกล่าวอันใดได้เลย ทั้งความโศกทั้งความซาบซึ้งใจผสมปนเปอยู่ในอก ชวนสับสนจนมิรู้ควรแยกสิ่งใดเป็นสิ่งใด


    ในท้ายที่สุดก็เป็นฝั่งสตรีที่เอ่ยก่อน “เจ้าอาศัยอยู่ที่แห่งนี้อย่างนั้นหรือ”


    รู้ทั้งรู้แก่ใจว่ามิควรเชื่อใจคนแปลกหน้า ทว่าช็องโซมุนกลับพยักหน้าตอบไปอย่างมิรู้ตัวเสียแล้ว


    “…ข้าเข้าใจแล้ว” นางส่ายศีรษะน้อยๆ ระคากำลังหนักใจกับบางสิ่งอยู่ จากนั้นจึงพึมพำใต้ลมหายใจตนเอง “เป็นเพียงเด็กมิแตะเลขสิบเสียด้วยซ้ำ ช่างน่าเห็นใจยิ่งนัก— ข้าน่าจะมาให้เร็วกว่านี้”


    แล้วก็หันมาถามเขาอีกคราว่า “บาดเจ็บที่ใดหรือไม่”


    ช็องโซมุนมิได้ตอบรับหรือปฏิเสธอันใด แต่สตรีผู้นั้นใช้ตามองปราดเดียวก็พอรู้แล้วว่าสภาพร่างกายเป็นเช่นไร ครั้นพิจารณาแล้วว่ามิเป็นอันใดมาก จึงกล่าวทิ้งไว้ว่า “เจ้ารอข้าตรงนี้ก่อน”


    หลังจากนั้นนางก็วิ่งหายไปหาชาวบ้านที่นอนกับพื้นอยู่ทีละคน ยิ่งจับข้อมือพวกเขาเหล่านั้นมากเท่าไร เรียวคิ้วสวยก็ยิ่งขมวดมุ่นเข้าไปใหญ่ ริมฝีปากเม้มแน่นด้วยความเจ็บใจ ดวงเนตรหรี่ลงเปี่ยมไฟเพลิงแค้น

    มือป้ายเลือดขีดเขียนแผ่นกระดาษ ม้วนพับส่งให้พังพอนขาวข้างกาย กล่าวถึงทั้งจักพรรดิแห่งป่าเขียวชอุ่ม ทั้งการแก้แค้นสองสามคำ แล้วปัดไล่ส่งตัวพังพอนออกไปในทันใด

    ทุกท่วงทีตกอยู่ในสายตาของช็องโซมุนทั้งหมด ตั้งแต่คราแรกที่นางขุดดินด้วยมือ จนกระทั่งกลบฝังซากศพของผู้คนจนหมดสิ้น

    เขาเดินออกไปหาสตรีผู้นั้นระหว่างที่นางกำลังหลับตาประสานมืออยู่ ครั้นเมื่อรวบรวมความกล้าจะเรียกหาได้แล้ว ดวงตาคล้ายดอกเหมยนั้นก็ลืมตื่นขึ้นมาเลื่อนลงมองเสียก่อน

    หากเป็นยามอื่น ช็องโซมุนคงพยายามหลบตาไปแล้ว ทว่ากับนาง เขากลับรู้สึกว่าถ้าพลาดครานี้ จะมิได้พบพานอีกแล้วอย่างไรอย่างนั้น ราวกับเป็นวาสนานานทีครั้งจะผุดขึ้นมาในรอบร้อยปี


    “เด็กน้อย เจ้ามีญาติผู้อื่นที่อาจพอดูแลได้หรือไม่” นางย่อกายลงมาเอ่ยถาม


    ช็องโซมุนเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนตอบกลับด้วยเสียงแหบแห้งว่า “…บิดาจากลาแต่เล็ก มารดาฝังอยู่ใต้พสุธา ข้าไร้ที่พึ่งพิงแล้วขอรับ ท่านเซียน”


    “อย่างนั้นหรือ…” ฝั่งสตรีก้มลงคิดอยู่สักพัก แล้วจึงเงยหน้ามาถามต่อ “สนใจมากับข้าหรือไม่ ข้ารู้จักคนผู้หนึ่งที่สามารถช่วยเหลือเจ้าได้ เจ้ามิต้องเกรงกลัวไปหรอก เขาเป็นสามีของข้า ความยุติธรรม ที่พักพิงอันใดย่อมมีมอบให้เจ้าอย่างแน่นอน”


    คำกล่าวเหมือนสัญญานั้นฟังดูแล้วเสนาะหูเสียเหลือเกิน คงเป็นเพราะเหตุนี้กระมัง ยามนั้นช็องโซมุนจึงเอื้อมมือไปกอบกุมมืออีกข้างที่ยื่นมาของนางอย่างมิลังเล

    ผู้ใดจะรู้กันเล่า— ว่าการตัดสินใจนั้นของเขา จะทำให้ได้พบเข้ากับมารดานาม ‘ช็องมยอง’ ผู้นี้เข้า

    และทำให้เขาเป็น ‘ช็องโซมุน’ บุตรชายบุญธรรม ผู้สืบทอดเพลงดาบของเซียนดาบดอกเหมยแต่นั้นเป็นต้นมา
    Tap to full screen .Repost is prohibited
    Let's send reactions!
    Replies from the creator

    recommended works