ถังช็อง เริ่มเลอถังช็อง
-Canon paro
-ถังโบ(ญ) / ช็องมยอง(ญ) อัมจนกอมจน
-ooc (มี18+นิดหน่อย)
——
“พี่หญิงเซียน ท่านถือของหนักเดินไปมาเช่นนี้ไม่รู้สึกเหนื่อยล้าบ้างหรือ”
ช็องมยองหันมองสตรีสวมใบหน้ายิ้มแย้มข้างกาย เรียวคิ้วเลิกขึ้นเล็กน้อยกับคำถามไร้สาระของนาง “ของหนักหรือ”
นางกล่าวถามพลางก้มลงมองตนเองไปด้วย ทว่ามิว่าจะจ้องมองเท่าใด ก็ไม่เห็นว่ามือได้ถือสิ่งใดนอกจากไหสุราเสียที
“ไหนเล่า” ช็องมยองขมวดคิ้วเอ่ย
ครั้นถังโบเห็นว่าพี่หญิงสุดที่รักของตนมิรู้เรื่องรู้ราวเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะบิดตัวไปมาอย่างสตรีอื่นทำกัน แต่งเสริมความน่าเอ็นดู
ถือวิสาสะลักลอบสอดกายเข้าไปกอดแขนอีกฝ่าย ถังโบคลอเคลียหน้ากับแขนข้างนั้นราวกำลังออดอ้อนอยู่ “พี่หญิง ท่านสังเกตไม่เห็นจริงหรือ”
“หากข้าสังเกตเห็น แล้วข้าจะถามเจ้าหรือไม่เล่า”
“ข้าแค่ถามเพื่อความแน่ใจเท่านั้นเอง— พี่หญิงเซียนโปรดวางหมัดท่านลงก่อนเถิด” ถังโบถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นช็องมยองยอมลดมือลงตามว่า แล้วจึงขยับไปเอื้อมไม้เอื้อมมือกอดเอวบ้างในครานี้ “หากเนตรเหมยฮวาคู่งามของพี่หญิงมองไม่เห็นจริง ฉะนั้นน้องหญิงก็สมควรบอกกล่าวแก่ท่าน”
สิ้นคำนั้น นางก็ทำสีหน้าหนักใจในบางสิ่ง “แต่ว่า…”
“แต่ว่า”
“ถ้าข้าเอ่ยออกไปแล้ว พี่หญิงต้องทุบศีรษะข้าแน่ น้องหญิงคนงามของท่านยังไม่อยากเจ็บตัวในวันนี้ อย่างไรก็หายากนักที่ท่านกับข้าจะได้แบ่งเวลามาพบกัน—”
“ต้องการสิ่งใดก็ว่ามา อย่ายึดยื้อ”
“ก็ได้ๆ เช่นนั้นข้าบอกท่านอย่างตรงไปตรงมาแล้วกัน พี่หญิงเซียนเกี่ยวก้อยสัญญาได้หรือไม่ว่าจะมิเหวี่ยงหมัดใส่ข้า”
ช็องมยองยกมือขึ้นมาลูบคางครุ่นคิดพักหนึ่ง แล้วตัดสินใจตอบกลับไปว่า “ขึ้นอยู่กับคำตอบของเจ้า”
“โธ่ พี่หญิงอ่า~ ข้าเป็นคู่บำเพ็ญเพียรของท่านนา ให้เอ่ยขอสิ่งใดบ้างมิได้หรือ”
“นี่ หากเจ้าต้องการเช่นนั้นแต่แรก ไยจึงต้องถามข้าก่อนด้วยเล่า คำตอบของข้าชัดเจนแล้ว รับหรือไม่ก็เรื่องของเจ้า”
ไหสุราในมือของช็องมยองถูกยกขึ้นดื่มอย่างไม่แยแส ช็องมยองยังคงนั่งดื่ม ตามองทิวทัศน์ภายนอกบานหน้าต่างในห้องชั้นสองของโรงเตี๊ยมอยู่เช่นเดิม มิคิดสนใจหา/ของหนัก/ที่ถังโบพูดในตอนแรกอีก
ทว่ามีหรือที่ฝ่ายหลังจะยอมแพ้ เห็นคู่บำเพ็ญเพียรทำตัวมิสนสี่สนแปดอันใดในใต้หล้า ถังโบก็จัดเตรียมท่าไม้ตายออกมาใช้ในทันที
นางกระดึ๊บเข้าไปยกแขนยกขากอดร่างของช็องมยองเอาไว้ พลางยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ ดวงตามรกตแวบวับยามนี้ฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำ ส่งสายตาวิงวอนให้เห็นใจขั้นสุด แนบริมฝีปากจรดจุมพิตทั่วใบหน้าเรียบนิ่งนั้น
“พี่หญิงเซียน~ ถือว่าเป็นคำขอของน้องหญิงเสียหน่อยมิได้หรือ ข้ากับท่านนานทีเจอกันครั้ง และตั้งแต่ที่ท่านเป็นคู่บำเพ็ญเพียรของข้า ท่านก็เอาแต่ทุบตีอย่างเดียว ไร้ซึ่งความอ่อนโยน เป็นฉะนี้แล้ว พี่หญิงมิคิดเห็นใจน้องหญิงหน่อยหรือ”
“……”
“น่า~ พี่หญิงเซียน~ เห็นใจน้องหญิงคนนี้หน่อยได้หรือไม่”
“…เจ้านี่ก็ ข้าไม่รู้จะว่าอย่างไรดีเลย” ช็องมยองยกมือขึ้นมานวดขมับพร้อมส่ายมือปัดๆ ให้นาง “แล้วแต่เจ้าแล้วกัน จะทำอันใดก็ทำ”
ได้ยินดังนั้น รอยยิ้มของถังโบก็เบิกกว้างด้วยความปิติยินดีทันใด “ขอบคุณพี่หญิงเซียน”
“แล้วไหนเล่าของที่เจ้าว่า”
“ก็…”
มือของช็องมยองซึ่งกำลังยกไหสุราขึ้นดื่มชะงักไปเล็กน้อย เมื่อสัมผัสเย็นจากปลายนิ้วถังโบเริ่มลับล้วงเข้ามาผ่านเสื้อคลุมตัวนอก เรียวนิ้วลากไล้ไปตามสันหลังครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ขยับสอดเข้าไปต้องแตะผิวกายใต้อาภรณ์ตัวใน
ถังโบเคลื่อนกายมาใกล้จนร่างของทั้งสองแนบชิดกัน ริมฝีปากอ้างับใบหูขึ้นสีเลือดฝาดพร้อมขบกัดเบาๆ คล้ายหยอกล้อ มือยังคงควานสำรวจไปตามผิวกายอีกฝ่าย จนกระทั่งมาหยุดอยู่ตรงก้อนนุ่มของช่วงอก
รอยยิ้มกว้างเผยขึ้นบนหน้าถังโบ นางนวดคลึงหน้าอกนุ่มนั้นทันทีที่จับต้องได้ เล็บเคลือบพิษทมิฬคอยสะกิดยอดอกสีงามเป็นระยะ เพียงได้ฟังพี่หญิงเซียนผู้นี้ครวญครางเสียงหวานแค่เพราะหน้าอก ถังโบก็พลันรู้สึกถึงเพลิงแห่งความตื่นเต้นกำลังแผดเผานางจากเบื้องในด้วยเช่นกัน
ผลักช็องมยองลงกับฟูกนอนฝนห้อง ถังโบก้มลงมาประทับจูบสั้นๆ ชั่วครู่ แล้วจากนั้นจึงย้ายริมฝีปากไปยังข้างหูของอีกฝ่าย กระซิบกล่าวว่า
“หน้าอกของท่านนั่นแลที่ดูหนักอึ้ง ถือของบนร่างกายเช่นนี้ไปมาทุกวัน พี่หญิงของข้าคงเหนื่อยมากแน่”
ถังโบแย้มยิ้มออกมาผิดกับสายตาของช็องมยองที่ขมวดคิ้วจ้องมองอย่างชัดเจน มือซ้ายนางบีบนวดก้อนนุ่มบนอก มือขวาพลางเลื่อนลงไปด้านล่าง สอดเข้าใต้กางเกงแตะกับกลีบผกาฉ่ำน้ำใส
ดวงเนตรมรกตคู่งามหยีอย่างสุขใจ “ฉะนั้นน้องหญิงผู้นี้จะช่วยเหลือแบ่งเบาภาระพี่หญิงเอง”
ช็องมยองมองรอยยิ้มนั้นสักพัก ก่อนจะหลับตาลง เม้มริมฝีปากแน่น เคียดแค้นเพียงใดก็มิอาจใช้กำลังได้ หากมิใช่เพราะคำสัญญาก่อนหน้านี้ ป่านนี้ถังโบคงปลิวออกหน้าต่างห้องไปแล้ว ไร้ทางมาคร่อมคอยรังแกร่างกายนางอยู่ตรงนี้หรอก
มิน่าไปรับปากเพราะเห็นว่าดวงตานั้นน่าเห็นใจเลย รู้ทั้งรู้ว่าต้องเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอย่างแน่นอน
เสียงหลุดครางออกจากปากทันทีที่หนึ่งนิ้วสอดใส่เข้ามาเบิกทางเข้ากลีบบุปผา ครั้นนิ้วนั้นเริ่มขยับเข้าออกช่องทางเบื้องล่างโดยไม่ทิ้งเวลาให้พักหายใจ หัวของช็องมยองเองก็กำลังเปลี่ยนเป็นสีขาวอย่างเชื่องช้า หยาดน้ำตาคลอกับความสุขสมที่ได้รับไหลลงชุ่มฟูกนุ่ม
ท้ายที่สุด ก็ได้แต่คิดว่า ‘เอาเถิด ถือว่าเป็นการตามใจสักครั้งแล้วกัน…’
หารู้ไม่ว่าการขึ้นเตียงครั้งนี้นี่แล ทำให้ถังโบกลายเป็นคนชื่นชอบเล่นกับหน้าอกอันยิ่งใหญ่ของนางไปเสียอย่างนั้น ทั้งนอนซบเวลาง่วงนอน ทั้งชอบบีบเล่นตามใจชอบ บนเตียงก็ยังขบเลียเช่นเดิมมิเว้น สรุปได้ความน่ารำคาญเพิ่มเสียเปล่า
หากรู้เช่นนี้ไม่น่าไปตามใจเจ้าเด็กนี่จนเสียคนเลย…
( end )