วันเกิดอายุ 20 ปี feat. Miguelผมมักจะเดินทางกลับเข้ามายังห้องพักซึ่งอยู่ในตัวเมืองไลเซลันด์ในทุกๆวัน แต่วันนี้นั้นมีสิ่งหนึ่งที่ต่างออกไป เพราะมันเป็นคล้ายวันเกิดของผม
วันแบบนี้มันต่างจากเดิมก็จริงอยู่ แต่วันแบบนี้มันเป็นสิ่งที่ ‘พิเศษ’ และสำคัญหรือไม่นั้น ก็เป็นคำถามที่ผมไม่สามารถตอบได้เช่นกัน ที่แน่ๆคือสิ่งที่ผมได้เรียนรู้หลังจากการค่อยๆเติบโต คือคนเราแต่แรกเกิดนั้นล้วนเป็นภาระ
ผมเป็นตัวภาระ ผมเกิดมาแล้วคนในครอบครัวต้องสละทั้งเวลาทั้งเงินมาดูแลจนผมเติบใหญ่ ก่อนที่พวกเขาจะค้นพบว่าผมเป็นเผ่าพันธุ์ที่เขาไม่ต้องการ และแม้ว่าผมจะพยายามค้นหาและเข้าใจตัวตนของตนเองพวกเขาก็จะขัดขวางและคอยกีดกันอยู่เสมอ มันทำให้ผมคิดอยู่ตลอด ว่าดีแล้วงั้นเหรอที่ผมเกิดมา เรื่องราวการเกิดมาของผมเป็นสิ่งที่น่าเฉลิมฉลองจริงๆงั้นเหรอ ผมมองออกไปยังนอกหน้าต่างชั้น 4 เห็นดวงจันทร์ลอยอยู่ตรงนั้น จะดีแค่ไหนหากผมเอื้อมมือไปสัมผัสเธอด้วยเท้าที่เปลือยเปล่านี้ ผมได้แต่คิดเท่านั้น พอได้สติก็ก้มหน้าลงมองพื้นกระเบื้องที่ผมเหยียบอยู่ ตระหนักได้ว่าผมคงเสียใจแน่ หากตัดสินใจลงไปเช่นนั้น แม้ยังหาเหตุผลมาอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ แต่ว่าความรู้สึกมันบอกแบบนั้น…
ที่ปลายสายตาของผมคือ ‘เขา’ ซึ่งถูกคำสาปกักขังอยู่ในห้วงนิทรา ผมก้าวเดินไปหา ‘เขา’ ก่อนจะทักทายเหมือนเช่นทุกวัน เป็นอย่างไรบ้าง วันนี้ผมสบายดีนะ มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายเลย แล้วจากนั้นผมก็จะเล่ามันให้ ‘เขา’ และดวงจันทร์บนท้องฟ้าฟัง ช่วงเวลาเช่นนี้ทำให้ผมคิดมโนไปเองว่าหาก ‘เขา’ ยังได้สติอยู่จะเป็นอย่างไรกันนะ มันคงเหมือนกับวันเกิดของผมเมื่อสองปีที่แล้วแน่ ๆ พวกเราฉลองด้วยกัน ทานมื้อค่ำด้วยกัน ‘เขา’ คงยิ้มให้กับผม อวยพรให้ แล้วบอกว่าดีจริง ๆ ที่ผมเกิดมาอยู่ตรงนี้ แม้ว่า ‘เขา’ จะไม่ได้มีสายเลือดเดียวกับผมแต่ความปรารถนาดีที่ ‘เขา’ มีให้ผมกลับทำให้ผมสบายใจยิ่งไปกว่าการอยู่กับครอบครัวแท้ ๆ ซึ่งคาดหวังให้ผมเป็นลูกที่สมบูรณ์แบบเสียอีก แต่น่าเสียดาย ที่เสียงนาฬิกาบอกเวลาสี่ทุ่มตรงทำให้ผมตื่นจากห้วงฝัน ผมรีบเก็บข้าวของของผมก่อนจะบอกลา ‘เขา’ ผู้หลับใหล จากนั้นจึงล็อกห้องแล้วลงจากห้องพัก
ผมเพิ่งจะรู้ตัวในตอนที่ผมหันไปทางหน้าต่าง ว่าผมกำลังร้องให้อยู่ น้ำตาไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ แต่แบบนี้ไม่ดีเลย ไม่มีใครต้องการเด็กขี้แยและเอาแต่ใจแบบนี้หรอก ผมจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดมันออกไปก่อนจะดันมุมปากของตัวเองขึ้นจนเกิดเป็นรอยยิ้ม ส่วนหางและหูก็พยายามจะออกแรงเล็กน้อยให้มันเคลื่อนไหวอย่างร่าเริงสดใส ผมมองภาพสะท้อนของตนเองในกระจกหน้าต่าง ก่อนจะเอ่ยกับเปลือกนอกอันเป็นที่รักว่า
“นี่สิ มิเกล โรซินันเต้ ที่ใครๆก็ต้องการ”