ห้องปิดตาย [โปรดทำตามเงื่อนไขที่กำหนด : จูบ ]
ระยำ
นั่นคือคำแรกที่ขึ้นมาในสมองของเกรเกอร์
ด้วยคำสั่งของเมเนเจอร์ที่เลือกเขาเป็นตัวแทนผ่านเงื่อนไขย่อยทำให้เขาต้องมาติดแหง็กในห้องปิดตายปริศนา มันเป็นห้องที่ดูเหมือนใหม่อยู่ห้องเดียวจากสถานที่ที่ถูกทิ้งร้างและเน่าเฟะด้วยซากศพ มันใหม่เสียจนอดไม่ได้ที่จะต้องหยุดเพื่อสำรวจ
ทว่ามัน..กลับกลายเป็นแบบนี้ไปซะได้
ปัญหาจะไม่มีเลยถ้าเขาไม่ได้เข้ามาติดในนี้
พร้อมกับหงลู่
"ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพวกห้องวิจัยเก่าจะมีห้องทดลองโจทย์แปลกๆแบบนี้ด้วย"
เด็กหนุ่มผมสีม่วงเข้มเอ่ยขึ้นมาขัดกับบรรยากาศอึมครึม น้ำเสียงของเขาไม่ได้มีความสลดหรือตกใจเลยแม้แต่น้อย กลับกันมันดันเป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัยใครรู้และตื่นเต้น ผิดกับชายวัยกลางคน ที่ยืนคาบบุหรี่พร้อมทำหน้าเครียดจนขี้เถ้าแทบจะติดริมฝีปากแล้ว
"... ไม่รู้เหมือนกัน"
เกรเกอร์ยอมรับตามตรง ในชีวิตที่ผ่านมาเขาพอรับทราบเรื่องการทดลองที่ใช้แรงขับเคลื่อนทางเพศเพื่อปลดล็อคเงื่อนไขหรือบรรลุผลทางการทดลองมาบ้าง แต่เขาไม่เคยเผชิญของจริงในสถานที่ที่เกือบจะเรียกว่าถูกทิ้งร้างแล้วแบบนี้
เขาควรจะรู้ถึงความผิดปกติตั้งแต่แรกมั้ยนะ ไอนักวิจัยเวรตะไลคนไหนมันอยากให้คนสองคนเข้ามาในห้องทดลองแล้วจูบกันถึงจะออกไปได้วะ
จูบ
แสดงว่าในห้องนี้ต้องมีกล้อง ตัวจับความร้อน หรืออะไรสักอย่าง
ชายวัยกลางคนคิดพลางก็เหลือบสายตาไปรอบๆห้อง เขาจะไม่เสียแรงเปล่าเพื่อใช้แขนของเขาทุบตีผนังห้องทดลองแน่ เพราะรู้ดีกันแต่แรกว่าต่อให้เป็นแอบนอร์สองพันตันก็ยังยากจะพังผนังห้องทดลองเหล่านี้ได้
"ก็แค่จูบเนอะ"
เสียงทุ้มนุ่มนวลที่ยังดูไม่ร้อนรนกับสถานการณ์เจี้ยวแจ้วมาจากข้างหลัง เกรเกอร์ผงะเล็กน้อยเมื่อถูกดึงรั้งออดจากภวังค์ความคิด สองมือของเด็กหนุ่มจับที่ไหล่ของคนที่แก่กว่า ยื่นหน้าลอดผ่านไหล่มาจากข้างหลัง
"อ่า ใช่" เกรเกอร์อ้ำอึ้ง "ฉันแค่คิดอะไรนิดหน่อยน่ะ"
"ว่าทำไมถึงมีห้องแบบนี้อยู่น่ะเหรอ ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน มันน่าประหลาดใจเนอะ"
แต่ดูแล้วท่าทางของเด็กหนุ่มจะเป็น 'ตื่นเต้น' มากกว่า 'ประหลาดใจ'
ว่าจบแล้วชายหนุ่มก็เดินออกไปสำรวจรอบห้อง ตามคาดห้องนี้มันไม่มีอะไรเลย มีแค่ปุ่มหนึ่งปุ่มคล้ายมีไว้สำหรับเปิดประตูหลังจากทำภารกิจเสร็จแล้วเท่านั้น
"ถ้าต้องจูบก็ต้องจูบแหละ"
"นายดูไม่รู้สึกระแคะระคายเลยนะ..."
ชายวัยกลางคนเกาท้ายทอยตัวเองด้วยมือข้างที่ยังเป็นมนุษย์ ก่อนจะดึงเอาบุหรี่หมดมวนทิ้งลงพื้นแล้วขยี้เล็กน้อยให้ไฟมอดดับไป ไม่รู้ว่าห้องมีออกซิเจนเหลือมากน้อยแค่ไหนไม่ทำให้มันปนเปื้อนกว่าเก่าน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
"ตรงไปตรงมาตามคำสั่งไง" หงลู่ยิ้มกว้าง
ที่ว่ามาก็ใช่
การทำตามคำสั่งเป็นเกณฑ์หลักในการใช้ชีวิตเยี่ยงพนักงานกินเงินเดือน ส่วนมากแล้วโปรแกรมหรือใบสัญญาว่าแบบไหนมันก็จะเป็นตามนั้น
มันก็แค่ จูบ และออกไปทำภารกิจต่อ
แต่ทำไมในใจของเกรเกอร์ถึงร้อนรนนักนะ..
"งั้นขอเวลาแปปนึงได้มั้ย"
คนแก่กว่าต่อรอง เขาเอามือนวดที่ระหว่างหัวคิ้วอย่างใช้ความคิด
ต้องยอมรับตามตรงว่าเขาแก่เกินจะมาทำเรื่องแบบนี้แล้ว ที่ผ่านมาถามว่ามีประสบการณ์มั้ยก็เคยมี ทว่าจะให้มาจูบเพื่อนร่วมงานทั้งๆที่สารรูปตัวเองเป็นตาลุงผมกระเซอะกระเซิงแถมมีกลิ่นบุหรี่มันก็ .. น่าอึดอัดใจยังไงไม่รู้สิ
หงลู่ยังยืนเอามือไพล่หลังอยู่ข้างๆในขณะที่เกรเกอร์กำลังยืนทำใจ ความอดทนในสถานการณ์ชวนอึดอัดของเด็กหนุ่มผมสีลูกหว้านั้นสูงจนน่ายอมรับ
แค่ริมฝีปากแตะกัน แค่ริมฝีปากแตะกัน
"..หงลู่ กลั้นหายใจแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้สักหน่อยนะ"
จุ๊บ
นั่นเป็นการจุ๊บที่เหมือนจุ๊บปากกันเล่นก็ไม่ปาน
"..."
"..."
"แค่นี้ก็มีกลิ่นบุหรี่ติดปากมาด้วยล่ะ"
"..."
"...ซวยหน่อยนะ ดันมาติดกับตาลุง"
เกรเกอร์หัวเราะต่ำๆ รู้สึกได้ว่าหน้าตัวเองร้อนด้วยความละอายแก่ใจในสิ่งที่ทำไป
มันใช่เรื่องมั้ยเนี่ย เขาสามารถฟ้องร้องค่าเสียหายกับทางบริษัทเป็นค่ากระทบกระเทือนทางจิตใจได้รึเปล่า..
"แต่ห้องก็ยังไม่เปิดนะ"
"..."
ในทีแรก เกรเกอร์คิดว่านั่นคงจะเพียงพอสำหรับการทำให้ตรงตามเงื่อนไข เพราะตามหลักจูบมันก็แค่ มนุษย์เอาริมฝีปากแตะกัน ทว่าห้องปิดตายไม่คิดแบบนั้น
มากกว่านี้อีกเหรอ
"น่าจะต้องเป็นแบบ deep kissมั้ยนะ แบบ แบร่"
ช่วงท้ายประโยคหงลู่แลบลิ้นเล็กน้อยขณะหันมามองเพื่อนร่วมงานที่มารับชะตากรรมร่วมกัน
อยากออกจากห้องแล้วอะ
เกรเกอรฺคิด ในจังหวะนี้ถ้าแปลงร่างเป็นแมงสาปแล้วไต่ลอดประตูได้ก็จะทำ
"มารีบจบมั้ยครับคนข้างนอกจะเป็นห่ว-"
"..งั้นเผยอปากแล้วกลั้นหายใจไว้นะ"
คนแก่กว่าสั่ง สีหน้าของชายวัยกลางคนซีเรียสเหมือนกำลังจะออกไปลุยดงระเบิด เขารวบรวมความกล้าขณะที่ขยับเขย่งปลายเท้าขึ้นไปเล็กน้อยเพราะส่วนสูงที่ต่างกันเล็กน้อย
แต่ว่า
ก็อก
นั่นคือเสียงฟันชนกัน
"..."
"...."
พรืด
สิ้นเสียงฟันชนไม่นาน คนแก่ก็หลุดขำออกมาเสียงดัง ความกล้าและความกดดันที่รวบรวมมาเมื่อครู่ถูกทำให้หายไปสิ้นเพราะความผิดพลาดเล็กน้อยถึงสองครั้ง มันก็น่าอายแต่จนป่านนี้แล้วจะมาหยุดไม่ได้ ทั้งคู่หลุดขำต่ำๆเล็กน้อยกับความไม่คุ้นชิน
แต่แบบนี้ค่อยดีขึ้นมาหน่อย เหมือนบรรยากาศกดดันมันหายไปเกือบหมด
เมื่อรู้สึกที่กดดันในใจมันผ่อนเบาลงมาบ้าง ความกล้าที่มั่นใจกว่าก็ก่อตัวชายวัยกลางคนเอามือแตะแก้มเพื่อนร่วมงานวัยละอ่อน คิ้วหนาขมวดหากันเล็กน้อยแล้วเอ่ยส่งท้าย
"โทษทีนะ"
เกรเกอร์เป็นฝ่ายจูบก่อน
ริมฝีปากของเกรเกอร์นั้นแห้งกระด้าง ผิดจากริมฝีปากเด็กหนุ่มที่ค่อนข้างบำรุงเป็นอย่างดี เมื่อบดเบียดกันหงลู่ก็เลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความไม่คุ้นเคยกับสัมผัส แต่แทนที่หงลู่จะยอมละออกเขากลับเป็นฝ่ายที่ตะกละตะกลามรุกเข้าหาอย่างเด็กวัยอยากรู้อยากลอง มันเริ่มจากจูบแผ่วเบาแล้วค่อยรุกคืบเข้าหา หงลู่ขบกัดริมฝีปากนั้นเหมือนเด็กอยากลองวิชาอยู่สองสามรอบ ก่อนจะบดจูบหนักแน่นลงไปคล้ายรอเวลานี้มาตลอดชีวิต
จนนั่นทำให้เกรเกอร์คิดในใจอย่างสับสน
ไม่คิดมาก่อนว่าเด็กบ้านรวยหน้าใสซื่ออย่างหงลู่จะจูบเป็น
..แต่ต้องยอมรับว่สมันเป็นจูบที่ดี
ดีมาก ดีเกินกว่าคนอย่างเขาควรจะได้ซะอีก
รู้ตัวอีกทีก็เผลอตัวตอบรับทุกการกระทำไปโดยไม่ทันคิด เขาเผลอไผลตามสถานการณ์..เผยอปากยอมรับลิ้นของเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ยื่นเข้ามาลองเชิงไปจนมันเริ่มบานปลายจากความต้องการเดิม
เรียวลิ้นซุกซนละเลียดชิมรสฝาดขมของบุหรี่ที่ยังคั่งค้างอยู่ในโพรงปากพลางก็ครางครือในลำคอไปพลาง -มันขมแต่กลับชวนให้เสพติด จนหงลู่เริ่มเข้าใจว่าทำไมคนถึงชอบสูบบุหรี่ทั้งๆที่ไม่ดีต่อสุขภาพนักหนา เพราะอาจโงหัวไม่ขึ้นเหมือนที่เขาชักจะติดใจรสชาตินิโคตินมือสองนี้ก็ได้
ริมฝีปากทั้งสองบดเบียดแนบชิดจนรู้สึกได้ว่าริมฝีปากที่เริ่มแห้งผาดนั้นเริ่มนุ่มลง ล่วงเลยมาจนลมหายใจที่มีอยู่น้อยนิดมันใกล้หมด คนที่สูบบุหรี่จัดจนปอดไม่แข็งแรงก็ยกมือตีไหล่อีกฝ่ายเป็นการประท้วงให้ปล่อยจากวงแขน
"-หงลู่ พอแล้ว"
เสียงปรามแหบต่ำลอดมาจากในลำคอคนบาปหมายเลข13 เมื่อเกรเกอร์พยายามจะละหนีด้วยความทรมาณจากการใกล้ขาดอากาศ แต่สองมือของหงลู่ก็ประคับประคองใบหน้านั้นเอาไว้ ทั้งยังดึงเข้ามาหาไม่ให้ห่างกาย
จนมือที่ตีก็เปลี่ยนเป็นทุบเป็นสัญญาณว่าให้หยุดการกระทำทั้งหมดสักที
ก็ได้
หงลู่ผ่อนลมหายใจ ยอมละออกมาโดยมีสายน้ำลายเชื่อมระหว่างริมฝีปาก เพชรงามสองสีนั้นมองริมฝีปากที่เคยแห้งผาดของเกรเกอร์อย่างนึกเสียดาย ..
"..เป็นไงครับ"
หงลู่ถามระหว่างที่ขยับหน้าไปใกล้อีกเล็กน้อย ยังดูอาลัยอยู่นิดหน่อยเลยเลียริมฝีปากตนเบาๆลิ้มรสรสชาติบุหรี่ขมตกค้างเอาไว้
มันเป็นpassion kissที่แม้จะตะกุกตะกักไปบ้างสำหรับชายสองคนซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงาน
แต่เขาชอบมัน
".....ห้อง"
สิ่งแรกที่เกิดขึ้นจากเกรเกอร์ดันไม่ใช่คำตอบของคำถามแต่กลับเป็นเรื่องงภารกิจ
""
"ห้องเปิดรึยัง"
เกรเกอร์ถามเสียงสั่น มือข้างหนึ่งยกปิดริมฝีปากตัวเองคล้ายยังดึงอารมณ์กลับมาไม่ได้ ส่วนหงลู่ได้ยิน-ก็เหมือนนึกได้ว่าตนมาทำงานและยังติดแหง็กในห้อง จึงรีบผละเดินไปจิ้มปุ่มเปิดประตูห้องขังแน่นหนา คลำหาปุ่มอยู่สักครู่ก็กดมัน
ทันทีที่กดปุ่ม ประตูลับที่กำแพงก็ปรากฏขึ้น
เปิดออกไปก็เห็นคนบาปคนอื่นยืนเรียงรายปรึกษากันถึงสถานการณ์
"เปิดแล้วล่ะๆ ทุกคน~ ฉันยังสบายดีล่ะ"
หงลู่ตะโกนเสียงแหว๋ว รีบเดินออกมาจากห้องก่อนอีกฝ่าย เขาพุ่งไปหาเมเนเจอร์แล้วยิ้มกว้างสดใสให้ทุกคน ทำเหมือนกับว่าซีนหนังโรแมนติกเมื่อครู่ในห้องไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนด้วยซ้ำ
"ข้างในมีอะไรอะ" ดอนที่หลบอยู่หลับเฟาส์ตะโกนขึ้นมาด้วยความสนอกสนใจ "แค่เงื่อนไขนิดหน่อย แต่ออกมาได้แล้วน้า"
"ติ่กต่อก ติ่กต่อก(ไม่บาดเจ็บใช่มั้ย)"
"อื้ม ทั้งผมทั้งเกรเกอร์ สบายดีมากเลย"
เมเนเจอร์เดินนำออกมาจะมองตามร่างกายคนบาปที่โดนส่งไปทำภารกิจมาหมาดๆ เห็นว่าไม่มีบาดแผลเสียงนาฬิกาก็ค่อยๆเคลื่อนกลับไปเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
"ดีแล้ว งั้นไปกันต่อเถอะ เดี๋ยวเวอจิลกับชารอนจะรอนาน"
.....
ทุกคนเดินออกไปกันแล้ว โดยมีเกรเกอร์ที่เพิ่งรวบรวมสติสตังกลับมาได้เดินอยู่รั้งท้าย เขารู้สึกเหมือนถูกอิโมชั่นนอลดาเมจก็ไม่ปาน คนที่สังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายมีสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่นักก็เป็นเจ้าตัวคนก่อเหตุที่ประสบกับสถานการ์ณประหลาดเมื่อครู่ด้วยกันเมื่อครู่
หงลู่เดินช้าลงอย่างช้าๆ จนระทั่งความเร็วของฝีเท้าเท่ากับชายวัยกลางคนที่หยิบบุหรี่มาสูบ
"คุณเกรเกอร์"
หงลู่เอ่ยเสียงเบา เหมือนกระซิบพอให้ได้ยินสองคน
"ถ้าจะมาพูดถึงเรื่องเมื่อกี้ ก็ช่วยลืมไปทีเถอะ"
เกรเกอร์ตอบเสียงปกติ น้ำเสียงปะปนด้วยความอับอายและหงุดหงิด หงลู่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มกว้าง
"ขมมากเลยครับ"
ก็บอกว่าถ้าจะพูดเรื่องเมื่อกี้ ก็ช่วยลืมไปทีไงเล่า
"..."
ไอเด็กนี่ .. กวนตีนกันนี่หว่า
"หนหน้าจะมาติดในห้องทดลองแปลกๆก็มาติดกับสาวๆแล้วกัน"
พูดพลางมือของเกรเกอร์ก็ปัดไปปัดมาคล้ายไล่ให้อีกคนออกไปห่างๆ เขาอายมากพอแล้วไม่ต้องรีแคปให้เขาฟังอีกรอบก็ได้ จะให้ไม่ขมได้ยังไงก็เขาเล่นสูบบุหรี่จนแทบจะเรียกว่า24ชั่วโมง ทั้งชีวิตหน้าที่การงานหรือกระทั่งสารคัดหลั่งมันก็ขมพอๆกันหมด
"ไม่ล่ะ คุณน่ะดีแล้ว" หงลู่เว้นเสียง"จริงๆนะ"
".."
ประโยคสุดท้ายของหงลู่ทำให้เกรเกอร์ชะงัก รู้สึกตัวอีกทีชายหนุ่มผมยาวก็เดินนำหน้าตนไปคุยกับคนอื่นซะแล้ว
ทิ้งเอาไว้เพียงแค่เขากับบุหรี่ที่ตกไปที่พื้นเรียบร้อย
...หมายความว่ายังไง
[จบ]