You are my Jackal (TouiRei)FanFic : Touichirou x Reigen
“ 𝑌𝑜𝑢 𝑎𝑟𝑒 𝑚𝑦 𝐽𝑎𝑐𝑘𝑎𝑙”
ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้น ฉันก็จำอะไรไม่ได้เลย ว่ามันเกิดอะไร หลังจากหลังจากที่ฉันพล่ามยาว ก่อนจะปล่อยหมัดใส่เจ้านั้น ถึงแม้เจ้าหมอนั่นจะโกรธที่ฉันยอมพล่ามยาวๆเพื่อปล่อยหมัดโง่ๆแบบนั้น แต่หลังจากที่โดนเจ้าหมอนั่นปล่อยพลังจิตใส่ เพื่อที่จะฆ่าฉันแท้ๆ ฉันกลับสลบไปเหมือนตายเลยล่ะ
พอรู้ตัวมาอีกที ฉันก็อยู่ในห้องมืดแล้ว ถึงจะมีแสงไฟอยู่บาง แต่มันก็เป็นแค่แสงไฟจากห้องทดลอง ไม่ช่วยให้ฉันมองเห็นได้ดีกว่าเดิมเลยด้วยซ้ำ
" ตื่นแล้วสินะ "
เสียงทุ้มๆปนความน่าเกรงขามดังมาจากที่ไหนสักที่ในห้องแห่งนี้ แต่ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย
" แก.. "
" แกจะทำอะไรกับฉัน "
ฉันตะโกนถามออกไปด้วยความที่รู้สึกกลัวอยู่หน่อยๆ สักพักเสียงฝีเท้าก็ค่อยๆดังขึ้นมา เหมือนกับว่าเจ้าหมอนั่นกำลังเดินเข้ามาหาทางฉัน แต่ยังไงซะ ฉันก็จับทางอะไรนั่นไม่ได้เลย เสียงเท้านั่นมันดังก้องกังวานไปหมด จนไม่รู้ว่าจากทางไหน แต่ที่แน่ๆ มันเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับว่าเจ้าหมอนั่นกำลังเดินเข้ามาใกล้ฉัน
" ดูเหมือนว่าแกจะจำอะไรไม่ได้เลยสินะ "
เสียงนั่นถามออกมาด้วยความเฉยชา
" แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ฉันอยากจะพูดถึง เพราะสิ่งที่ฉันจะพูดถึงนั่นก็คือ "
" แกยินยอมที่จะมาเป็นลูกน้องให้ฉันสินะ "
อะไรกัน นี่เจ้าหมอนี่เป็นบ้าไปแล้วรึไง นี่ยอมรับข้อเสนอโง่ๆของฉันงั้นหรอ ทั้งๆที่ฉันบอกออกไป เพราะแค่คิดแผนได้เท่านั้นเอง
" หึ ใช่ มันฟังดูบ้านะ ที่ฉันยอมข้อเสนอที่ไม่มีความคิดไตร่ตรองอะไรแบบนั้น แกคงพูดออกมาเพราะเป็นแผนอยู่สินะ "
" ถึงในใจจริงๆ แกจะไม่ได้อยากเข้าร่วมเลยก็เถอะ แต่ว่า...ฉันลองมาคิดดูแล้ว แกเองก็ทำฉันเกือบเชื่อได้สนิทเลยล่ะ.. "
หะ เจ้าหมอนี่มันพล่ามยาวอะไรของมันกัน
" ฉันเลยคิดว่า ถ้าได้แกมาเป็นพวก มันก็คงดีไม่น้อย เพราะแกก็คงหลอกคนมาเยอะสิท่า... "
คำพูดเหล่านั้นมันแทงใจดำฉันเต็มๆเลย เอ่อ ฉันยอมรับก็ได้ ว่าฉันหลอกม็อบเพื่อใช้มาโดยตลอด แต่อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้หลอกเพื่อใช้ส่วนตัวอะไรมากหรอกนะเว้ย อย่างน้อยก็ได้ช่วยสังคมละกันวะ
" พล่ามมายาว แกคงเบื่อที่นะฟังเต็มทนมาแล้วสิท่า ถ้างั้น.. "
" มาเริ่มกันเลยดีกว่า "
หลังจากที่หมอนั่นพูดจบ ไฟในห้องแล็บก็เริ่มสว่างขึ้น จนพอมองเห็นทางได้บ้างแล้วล่ะ ฉันตกใจอยู่เล็กน้อยหรอกนะ เพราะฉันไม่คิดว่าห้องแล็บมันจะใหญ่ขนาดนี้ นี่เจ้านี่มีงบสร้างห้องแล็บได้ขนาดนี้เลยหรอ
ฉันตั้งสติ ก่อนที่จะรีบลุกขึ้นอย่างแน่วแน่
" แกต้องการอะไรอีกวะ ไม่ใช่ว่าแกกำลังจะฆ่าฉันตอนที่ฉันปล่อยหมัดใส่แกไปรึไง "
" แล้วทำไมแกถึงจะจับฉันมาเป็นพวกอีก ทั้งๆที่รู้แล้วว่าฉันไม่ได้อยากเป็นพวกของแก นี่แกมีปัญหาทางสมองรึไงกัน "
ฉันตะโกนถามออกไปด้วยความที่เริ่มคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้ว ก็แหง่ล่ะ ทั้งๆที่ฉันตั้งใจจะหลอกศัตรูอยู่แท้ๆ แต่กลับโดนศัตรูจับมาเป็นพวก ฟังดูงี่เง่าชะมัด
" ฉันยังพูดไม่ชัดเจนอีกรึไง "
" นี่แกเป็นพวกเข้าใจอะไรยากรึไงกัน "
หมอนี่แม่งหยามกันชัดๆ ชักจะทนไม่ไหวแล้วนะเว้ย ถ้าฉันรู้ว่าเจ้านั่นมันอยู่ส่วนไหนของห้องแล็บนี้ ฉันจะถอดรองเท้า แล้วปาใส่ปากแม่งเข้าไปแล้ว
" รู้อยู่น่ะว่ากำลังโกรธ หึ "
" ก็ได้ๆ ฉันจะยอมอธิบายให้ชัดเจนขึ้นก็แล้วกัน สำหรับคนที่เข้าใจอะไรยากแบบแก "
หลังจากที่พูดจบ เสียงเดินมันก็ดังขึ้น จากบนลงล่าง เหมือนกับว่าเจ้านั่นกำลังเดินลงมา ก็ดี อย่างน้อยจะได้ลากคอมันมาเคลียร์อีกที และถ้ามันมีทางออกล่ะก็ ฉันจะรีบอแกไปจากห้องแล็บบ้าๆนี่ แล้วก็รีบวิ่งไปหาม็อบซะ
" หลังจากที่ฉันปล่อยพลังใส่แก ฉันก็ได้ใช้พลังจิตนั่นส่งตัวแกมายังห้องนี้ มันก็แค่พลังจิตที่ใช้ลวงตาลูกศิษย์ของแกที่กำลังหมดสภาพนั่นแหละ "
" แต่ก็ไม่คิดว่าเจ้าหนูคนนั้นจะฟิวส์ขาดซะก่อน ทำเอาสนุกเป็นบ้า เราก็มีสู้กันบ้างหลังจากนั้น แต่พอการต่อสู้จบไป ฉันก็หนีรอดออกมาได้ "
เสียงพูดกับเสียงเท้ามันดังปนกันได้ จนตอนนี้เริ่มสัมผัสได้แล้วว่า เจ้านั่นกำลังมาทางด้านหลังของฉัน แต่ว่า
มันดันรู้สึกจนลุกจนลุกไม่ขึ้นเลยแฮะ แม้แต่หันซ้ายขวาก็ขยับไม่ได้ เหมือนกับโดนพลังจิตควบคุมร่างกายอยู่ให้อยู่ในทีท่าแบบนั้น
" และใช่ หลังจากที่การต่อสู้มันจบลง พวกนั้นก็หาแกกันยกใหญ่เป็นโขยง เหมือนกับว่าแกเป็นศูนย์กลางของจักรวาลยังงั้นแหละ "
" ตั้งแต่เหตุการณ์นั่นก็ผ่านมา 12ชม.ได้แล้ว หลังจากที่พวกนั้นตามหาแก แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกอะไรหรอก เพราะแกก็อยู่ในกำมือของฉันแล้ว "
" และสิ่งที่ฉันจะพูดต่อจากนี้ก็คือ "
เจ้านั่นยื่นมือมาจับเส้นผมของฉันจากด้านหลัง ก่อนที่จะดึงฉันให้เงยหน้าขึ้น จนหน้าของฉันกับเจ้านั่นแทบจะใกล้ชิดกันแล้ว
" แก "
" จะได้มาเป็นพวกเดียวกันกับฉัน และเป็นการเริ่มที่ดี ที่ฉันจะจับแกมาทดลองอะไรอีก "
" หลังจากนี้ก็ฝากตัวด้วยล่ะ "
" ลูกน้องคนใหม่ของฉัน "