[ จิงิคุนิ ]จิงิริมันเป็นนายแบบหนุ่มพ่วงตำแหน่งลูกประธานบริษัทชื่อดังอะเนอะ มันก็ต้องมีคนเข้าหาเป็นธรรมดา แต่หลังจากที่เขาเคยได้รับรู้ความจริงว่าคนที่เขาเปิดใจให้มากที่สุดกลับเป็นคนที่ขุดหาประโยชน์จากเขามากที่สุดนั้น หลังจากนั้นเขาก็ไม่เปิดใจให้ใครอีกเลยจนมาเจอกับคุนิงามิ บอดี้การ์ดหนุ่มหน้าใหม่ที่ทางครอบครัวของเขาหามาให้
จิงิริแปลกใจในตัวคุนิงามิมากตรงที่คุนิงามินเป็นคนซื่อตรงมากจนเขายังเคยสงสัยว่ามากเกินไปรึเปล่า แต่นั่นแหละคือจุดที่ทำให้คนอย่างเขาเริ่มเปิดใจ เพราะแม้จะตรงไปตรงมาแต่ก็ยังใสซื่อ พออยู่กับอีกฝ่ายไปนานวันเข้า จิงิริที่ไม่เคยสัมผัสถึงความโลภของคุนิงามิได้เลยก็ยิ่งเปิดใจ ยิ้มบ่อยขึ้น พูดมากขึ้น จากหนุ่มผู้เย็นชาเก็บตัวไม่สนใครกลับกลายเป็นหนุ่มขี้เล่นขี้แหย่(แม้ทั้งหมดที่ว่ามาจะเกิดขึ้นกับคุนิงามิคนเดียวก็ตาม)
แต่ไม่ว่าทุกอย่างจะดีขึ้นยังไง แต่เขาก็ยังไม่สามารถตระหนักถึงความรู้สึกของตัวเองได้อยู่ดี เพราะเมื่อเขามีความตั้งใจที่จะพัฒนาความสัมพันธ์เมื่อไหร่ อดีตที่ปวดร้าวนั้นก็ตามกลับมาหลอกหลอนทุกเมื่อ
แต่แล้ววันหนึ่ง วันนั้นเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ที่คุนิงามิยื่นใบลาพักร้อนเพื่อขอหยุดไป เขาที่กำลังนั่งเหม่อมองกระจกนอกรถกลับไปเป็นคนที่ลาหยุดเดินช็อปปิ้งกับผู้หญิงที่ไหนไม่รู้อย่างมีความสุข นั่นทำให้เขาฉุดนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ เขานึกออกแล้วว่าความรู้สึกที่อยู่ในอกและผีเสื้อที่อยู่ในช่องท้องยามที่ได้อยู่กับอีกคนมันเรียกว่าอะไร
เขายอมรับมันแล้ว
แต่ดูท่าว่าจะช้าไปสินะ เขาคิดพร้อมสั่งให้คนขับพากลับบ้านด้วยท่าทางเศร้าหมอง
วันต่อมา คุนิงามิที่กลับมาทำงานตามปกติก็ต้องแปลกใจที่อยู่ๆคนที่เป็นมากกว่าเจ้านายของตนมีท่าทางเปลี่ยนไป และมันก็เป็นแบบนั้นอยู่หลายวันจนคุนิงามิทนไม่ไหวเผชิญหน้ากับจิงิริแบบสองต่อสองและถามไถ่ถึงความเป็นไป
จิงิริที่แววตากลับไปไรซึ่งประกายกลับเบืองหน้าหนีและบอกว่าไม่ใช่เรื่องที่คุนิงามิจะต้องมายุ่ง จังหวะนั้นแหละที่คุนิปรี๊ดแตก จะไม่ให้ยุ่งได้ไง นายคือคนสำคัญของฉันนะ จิงิริได้ยินก็เถียงกลับเลย เราเป็นแค่เจ้านายและลูกน้อง หน้าที่ของนายมีแค่ปกป้องฉัน
คุนิงามิพอได้ยินแบบนั้นก็เงียบไปสักพักก่อนที่จะเอ่ยบางอย่างออกมาเสียงเบา บางอย่างที่รุนแรงเสียจนอีกคนยังตกใจ
“งั้นฉันจะลาออก”
จิงิริที่กำลังงุนงงไม่รู้ว่าทำไมถึงอยู่ๆอีกฝ่ายจะลาออกก็ได้คำตอบเป็นการที่คุนิงามิพูดความในใจออกมาทั้งเสียงที่สั่นเครือ
การที่นายทำเหมือนเรากำลังไปได้ดี การที่นายทำเหมือนความสัมพันธ์ของเรามันมากกว่าสิ่งที่ควรจะเป็น ทุกๆการกระทำของนายที่ผ่านมาคือนายแค่เล่นสนุกกับฉันสินะ ได้ ถ้าเรื่องมันเป็นแบบนี้งั้นฉันก็ขอลาออก
พอพูดจบเขาก็หันหลังกลับไปพร้อมที่จะเดืนออกจาห้องส่วนตัวสุดหรู แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรเขาก็โดนท่อนแขงของคนที่ได้ชื่อว่า‘อดีต’หัวหน้ารั้งไว้
เหมือนหันกลับไปเขาก็ต้องตกใจที่จิงิริมีสีหน้าตกใจยิ่งกว่าเขาเสียอีก
‘ฉันขอโทษ’
เขาไม่อยากให้มันจบแบบนี้เลย
‘ฉัน….’
‘ฉันรักนายนะ’
จิงิริที่ตกใจอยู่แล้วนั้นกลับตกใจเข้าไปใหญ่เมื่อในที่สุดเขาก็สามารถพูดคำว่ารักออกไปได้อีกครั้ง แม้จะไม่สมหวัง อย่างน้อยเขาก็ได้พูดออกไป
แต่สิ่งที่ได้รับกลับมานั้นกลับเป็นการที่เขาถูกรั้งใบหน้าเข้าไปจูบ มันเป็นเพียงการประสานริมฝีปากที่แผ่วเบาราวกับต้องการจะปลอบประโลมเขา
แล้วทำไมนายไม่บอกฉันตรงๆล่ะ คุนิงามิถาม
เพราะฉันเห็นนายกับแฟนสาวของนายไง แม้จะยังงุนงนแต่เจ้าของเรือนผมสีแดงก็ตอบออกไปอย่าเถรตรง
คุนิงามิแปลกใจกับคำตอบนั้นจนต้องถามซ้ำ และเมื่ออดีตเจ้านายของเขายังคงยืนยันคำตอบเดิมพร้อมอธิบายเพิ่มเติมเขาก็ทำได้เพียงหัวเราะออกมา
นั่นมันน้องสาวฉันต่างหาก
….ห๊ะ
ฉันมีพี่สาวกับน้องสาวนะเผื่อนายลืม
ไม่สิ เข้าไม่มีทางลืมรายละเอียดของคนในอ้อมกอดแน่ ทำไมเขาถึงไม่รู้ล่ะ
ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องนี้
อย่าบอกนะว่าตอนพ่อนายรับฉันเขามาเข้าไม่ได้เอาเอกสารฉันให้นายดูน่ะ
จิงิริสายหน้า การกระทำนั้นเรียกความเอ็นดูจากคุนิงามิได้อย่างดี
ครั้งหน้ามีอะไรก็ถามฉันได้ตรงๆเลยนะเข้าใจไหมครับ คุณหัวหน้า
คุนิงามิพูดด้วยรอยยิ้ม
เขายอมรับเลยว่านั่นเป็นรอยยิ้มที่สวยงามที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา
ให้ตายสิ
ขอโทษด้วยนะครับ
คุณบอดี้การ์ดของผม