Sub marine part 2ผ่านไปซักพัก คิริวฟื้นจากการป่วย ที่หนักขนาดนี้เพราะคิริวเป็นเป็นคนที่เก็บความเครียดที่ตัวเองทำไว้สมัยเกเรไว้ พยายามทำตัวเป็นเด็กดี พอก่อนหน้านี้ไนอีเวนท์อาคาสึกิคิริวได้คำชม เลยปล่อยใจจนความเครียดความเหนื่อยที่เก็บไว้ถลาเข้ามา+เมาเรือ เลยเป็นหนัก
ตอนนี้อาคาสึกิคอยรับใช้พวกท๊อปๆของริซึมลิ้ง แต่มันไม่ง่ายที่จะล้มคอสโปร เพราะมีแต่ศึกหนักทั้งนั้น แต่ใช้ว่าจะไม่ส่งผล ตอนนี้อำนาจของคอสโปรลดลงแล้ว คอสโปรเป็นพวกที่ถ้าเห็นว่าไม่มีทางชนะก็ให้ถอย ตามที่โซมะคิดไว้ ทุกอย่างเป็นไปตามที่โซมะคาดไว้ทั้งหมด
อาคาสึกิก็ได้ความไว้ใจจากพวกท๊อปริซึมลิ้ง จนถึงปล่อยให้สงครามเป็นอาคาสึกิจัดการส่วนตัวเองก็ชิลเที่ยวในโอคินาว่าไป ตอนนี้ง่ายมากที่จะเอาเงินจากพวกนั้นทั้งหมด แล้วก็ขึ้นเป็นท๊อปในเขตโอกินาว่านี่
คิริวไม่คิดว่าโซมะจะเก่งการวางแผนการรบขนาดนี้ เหมือนพรสวรรค์ในการรบที่เก็บไว้กำลังบานอยู่ บรรพบุรุษตระกูลโซมะก็เป็นตระกูลประมานนี้ในระดับชาติด้วยนี่นา แม้แต่ยุคที่ไม่มีสงครามตระกูลนี่ก็คงไม่ปล่อยให้ดาบขึ้นสนิม โซมะคงโดนสอนไรพวกนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ถึงบางทีจะทำตัวเป๊นเด็กแต่การกระทำหลายๆอย่างในสนามรบนี้น่ากลัวมาก เพื่อไม่ให้โซมะออกนอกลู่นอกทาง คิริวต้องจับตาดูให้ดี
คิริว :ไม่อยากให้(โซมะ)ทำพลาดแล้วเสียใจภายหลังเหมือนฉัน
ผ่านไปหลาย10นาที เคย์โตะเรียกคิริวกับโซมะมาที่ร้านอาหารก็มาเจอจิอากิ
ริวเซไตตอนนี้เข้าอยู่กับฝั่งไอดอลโอกินาว่าคอยช่วยเหลือหลบสงคราม ช่วงนี้ไอดอลESตีกันเอง เลยพอมีเวลาว่างเปิดไลฟ์เก็บตังอยู่ คนดูก็เริ่มเบื่อสงครามแล้ว ไลฟ์ริวเซไตเลยค่อนข้างได้รับความนิยม
ริวเซไตที่ผุบๆโผล่ๆ ตามจับได้ยากเลยไม่ได้เป็นเป้าหมายของโซมะ ถึงยังงั้นคนที่กำชัยชนะก็คงเป็นโซมะ จิอากิก็เห็นด้วยแบบยิ้มๆเพราะโซมะตอนนี้เหมือนกับเคย์โตะเลย
จิอากิมาที่นี่เพื่อจะมีเรื่องปรึกษา ก่อนทื่จะเริ่ม เคย์โตะก็บอกว่าจิอากิโดนคำสั่งต้องห่างจากริวเซไตเป็นช่วงๆ เคย์โตะใช้จุดนี้ให้จิอากิเป็นสปายให้อยู่ เหมือนกับที่เคย์โตะให้ชิโนบุคอยดูมาโอะว่าทำงานประธานนร.ได้โอเครึป่าว ให้แอบมารายงานเคย์โตะด้วยกรุ๊ปไลน์”ห้องนินจา”
ที่ต้องทำตัวเป๊นสปายก็เพราะว่าเคย์โตะสงสัยในการเคลื่อนไหวของESตอนนี้ ปกติถ้าดูการเคลื่อนไหว เอย์จิ เรย์ อิบาระ สึมุกิ ก็พอเดาการเคลื่อนไหว4ค่ายได้ แต่ตอนนี้เหมือนถูกใครบางคนควบคุมอยู่ยังไงอย่างงั้น เลยเชื่อใจESไม่ได้
ตอนแรกโซมะนึกว่าจิอากิก็เหมือนโซมะ ที่คอยออกห่างจากทีม แล้วให้เด็กๆพยายามกันเองเหมือนที่โซมะพยายามอยู่ ถึงจะได้ผลกับอาคาสึกิ แต่กับริวเซไตดูจะไม่ได้ผล
ส่วนเรื่องที่จิอากิจะมาปรึกษาคือ ตอนนี้ลัทธิในพื้นที่โอกินาว่าที่ยกย่องคานาตะเป็นพระเจ้าจับตัวคานาตะไป แล้วกำลังจะจัดงานบูชา
ตัดไปที่แถวทะเล มิโดริบอกจะเอาไงเรียกตำรวจไหม ส่วนเทโทระกำลังแพนิค ถ้าคานาตะเป็นไรจะทำไง ส่วนชิโนบุดูใจเย็น เพราะแค่พาไปพูดคุยไม่ได้พาไปกินซักหน่อย แต่เทโทระก็เป็นห่วงอยู่ดี
มิโดริก็บอกว่าจะตัดสินทันทีว่าคนลัทธิเป็นคนเลวก็ไม่ได้ เหมือนหลังไลฟ์จบคานาตะมีแอบคุยกับคนพวกนี้อยู่ด้วยนะ รวมถึงคนลัทธิดูเกี่ยวข้องกับไอดอลในพื้นที่ด้วย มิโดริเลยอยากลองดูสถานการณ์อีกหน่อย คานาตะก๊บอกให้รอตรงนี้จนกว่าคานาตะจะกลับมาด้วย
เทโทระบอกว่าถ้าทำแบบนี้จะโดนทำตัวว่าพวกเราเป็นเด็กแล้วกีดกันออกข้างนอกไม่ใช่หรอ แต่เรื่องแบบนี้พวกเราก็โหรธเซมไปไปหลายนอบแล้ว เซมไปไม่น่าจะทำไรซ้ำเดิม ชิโนบุบอกให้รอจิอากิ ตอนนี้ติดต่อไปแล้ว ถึงสุดท้ายก็ต้องเพิ่งจิอากิ แต่ถ้าเราทำเองไม่ไหวก็ต้องให้คนที่ทำได้ทำ
ตัดไปที่ในถ้ำ คานาตะได้ยินเสียงเด็กๆริวเซไตเถียงกันข้างนอก ช่วงนี้เด็กๆดูไม่ฟังคำที่คานาตะบอก หรือว่าจะเป็นวัยต่อต้าน แต่วัยต่อต้านก็เป็นสิ่งที่จำเป๊นคานาตะก็เคยเป็น แล้วก็ไดิยินเสียงอะไรพัง เลยคิดว่าน่าจะเป็นมีใครบางคนทำสงครามอีกแล้วหรอ
คานาตะ:ช่วยไม่ได้ ผมต้องไปหยุด เด็กคนนั้นฟังคำทุกอย่างที่คานาตะพูด เพราะเด็กคนนั้นยังไม่ถึงวัยต่อต้าน
ตัดไปข้างนอก โซมะพยายามบุกเข้าไปหาคานาตะโดยมีชิโนบุกับเทโทระห้ามอยู่ เพราะทางที่โซมะกำลังจะไป เป็นทางที่ห้ามเข้า มิโดริไม่ยอมเข้าไปช่วยห้ามเพราะกลัวดาบ อีกอย่างทำไมต้องห้ามโซมะด้วย
ชิโนบุกับเทโทระบอกว่าถ้าคนดีอย่างโซมะกำลังเดินผิดทางพวกเราต้องห้ามนะ
มิโดริ : หยุดเถอะไอ้ที่พูดว่าพวกเราอ่ะ อย่าลากฉันเข้าไปสิ ริวเซไตทุกคนชอบทำแบบนี้อ่ะ
(แต่ช่วงนี้ดูไม่ค่อยเป็นแบบนี้ ซึ่งแปลว่าเหมือนกับเมื่อก่อน อย่างกับริวเซไตที่ชอบ)
ชิโนบุบอกให้มิโดริใช้ท่าที่ฝึกไปตอนMDMเร็ว
มิโดริ: ไม่ๆไม่ไหวหรอก มิโดริบาริเกทใช้ไม่ได้ผลกับคนที่ถือดาบหรอก
หลังจากจะวุ่นวายไปมากกว่านี้คานาตะก็โผล่มาหลังโซมะ แล้วบ่นๆว่าที่หนวกหูคือโซมะเองหรอ โซมะพยายามขอโทษ ได้ข่าวว่าเกิดเรื่องใหญ่มาจากจิอากิ
คานาตะ: จิอากิ ตอนนี้คนๆนั้นทำอะไรอยู่ที่ไหนหรอ ปล่อยให้ดูแลเด็กๆแล้วตัวเองก็ไปเที่ยวไหนก็ไม่รู้
พอโซมะเล่าว่าได้ยินมาว่าคานาตะจะถูกจับไปยกย่องเป็นพระเจ้าอีกรอบนี่จริงรึป่าว
ก็ตัดไปที่ตอนเช้าที่เรือกำลังมุ่งหน้ากลับเกาะโอกินาว่า คานาตะบอกกับทุกคนว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ก็จริงที่คานาตะเคยถูกยกเป็นพระเจ้าที่บ้านเกิด เด็กๆริวเซไตก็งง อะไรไม่เห็นเคยได้ยินเลย เคยได้ยินมาแบบคร่าวๆแต่นึกว่าเรื่องล้อเล่นเลยไม่ได้ตั้งใจฟังดีๆ
จริงๆคานาตะก๊กลัวที่จะถูกเกลียดเลยไม่กล้าเล่าตรงๆด้วย ทุกคนเกลียดพระเจ้านี่นา พระเจ้าน่ะเป็นสิ่งที่เข้าถึงไม่ได้ สิ่งน่ากลัว เป๊นสัตว์ประหลาด ประเทศนี้ในยุคสมัยนี้ พระเจ้าก็เหมือนสัตว์ประหลาดน่ะแหละ
คานาตะ: ไม่จริงหรอ ถ้าไม่ใช่ละก็ ทำไมทุกคนถึงกลัวพระเจ้าล่ะ เหมือนมองสิ่งสกปรก ทำเป็นมองไม่เห็น ไม่อยากจะพูดถึง
ชิโนบุบอกว่า ตอนเด็กๆชิโนบุพูดถึงเรื่องนินจาที่ชอบ ทุกคนก็หัวเราะแหะๆใส่ แต่มีริวเซไตที่จิอากิสร้างนี่แหละ ถึงจะไม่เข้าใจ แต่ทุกคนก็ยอมรับ เพราะฉะนั้นชิโนบุก็จะทำเหมือนกัน ไม่หัวเราะกลบเกลื่อน ฟังที่คานาตะพูดอย่างจริงจัง
หลังจากผ่านไปหลายชม. คานาตะเล่าเรื่องสมัยก่อนให้กับรุ่นน้องฟัง เรื่องที่คานาตะที่เป็นพระเจ้าได้พบกับจิอากิแล้วเริ่มเดินในฐานะมนุษย์ คานาตะตอนแรกกลัวที่จะถูกเกลียดถ้าเล่าไป แต่มนุษย์ต่างจากพระเจ้า ไม่มีอะไรเป็นนิรันดร์ ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงก็ไม่มีการเคลื่อนไหว คานาตะเลยเล่าออกมาเพราะตอนนี้คานาตะไม่ใช่พระเจ้าที่เป็นนิรันดร์แต่เป็นมนุษย์
ถึงสตาโปรจะบอกให้ริวเซไตควรกลับเป็นเหมือนเมื่อก่อน แต่การเปลี่ยนแปลงคือพื้นฐานของมนุษย์ คงไม่มีทางอื่นนอกจากอดทนแล้วก็ก้าวเดินต่อไป เด็กๆริวเซไตทุกคนก็เห็นด้วย
กลับมาที่คานาตะทำให้เป็นเรื่องใหญ่จากการเข้าใจผิดว่าคานาตะโดนคนในพื้นที่จัดบูชาเทพเจ้า ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด ที่โซมะเกิดอาการร้อนรนจากการเข้าใจผิด ก็เพราะว่าถ้าคานาตะกลัาไปเป็นพระเจ้า โซมะจะเดือดร้อน โซมะมีหน้าที่นึง คืงเมื่อพระเจ้า(คานาตะ)เกิดแปลกขึ้นมา โซมะต้องเป็นคนฆ่าคานาตะ
การที่คานาตะเป็นมนุษย์ไม่ใช่พระเจ้าทำให้โซมะไม่จำเป็นต้องฟันใคร โอกาสสุดท้ายที่โซมะจะฆ่าคานาตะคงเป็นไคจิเซน(ไลฟ์ในอีเวนท์ ซึ่งโซมะปล่อยโอกาสนั้นไปแล้ว ถ้าคานาตะกลับไปเป็นพระเจ้าอีก โซมะอาจจะต้องทำหน้าที่นั้นอีก เพราะโซมะเกิดมาเพื่อมีหน้าที่นี้ ถึงกับกลัวจนสติแตก ว่ายน้ำข้ามเกาะมาหาคานาตะ
คานาตะ:แต่ก็ดีใจนะ ถ้าโซมะไม่คิดอะไรกับผมละก็ เด็กคนนั้นคงไม่เป็นอะไร คงไม่รู้สึกอะไรเหมือนหุ่นยนต์แล้วทำหน้าที่นั้นของตัวเอง คงฆ่าฟันผมอย่างกับปลาแน่นอน แต่เพราะเด็กคนนั้นคิดว่าผมสำคัญ เพราะรัก เลยสั่นคลอน แค่มีโอกาสเล็กๆน้อย ก็ยืนอยู่เฉยๆไม่ได้แล้ว พอคิดแบบนั้นแล้ว อาา.. น่ารักจริงๆนะ
ที่คานาตะไปที่ถ้ำไม่ได้จะกลับเป็นพระเจ้าหรืออะไรหรอก แค่อยากคุยกับพวกลัทธิเพราะมีเรื่องคาใจเท่านั้นเอง เลยเกิดเรื่องเข้าใจผิด
ชิโนบุบอกว่าตัวชิโนบุแค่ส่งข้อความหาจิอากิว่า คานาตะดูจะเข้าไปคุยกับคนในลัทธิ พอจะรู้อะไรไหม เท่านั้นเอง แต่พอดูที่โทรศัพท์ ดันเป็นข้อความที่ส่งไปว่า “ชินไคเซมไปกำลังจะถูกบูชาเป็นพระเจ้า” ถ้ามีใครเข้ามาแฮคแก้ข้อความแบบนี้ก็มีแค่คนเดียวที่ทำได้ คือESน่ะแหละ
ตัวหัวๆของEsเข้ามาแก้ข้อความทำให้โซมะเกิดอาการแพนิค โจมตีพวกเราอยู่ พวกเราเป็นไอดอลESแต่โดนESโจมตีแบบนี้ รู้สึกจะเกิดเรื่องแย่ๆขึ้น
ตัดไปที่ตึกESที่ห้องแผนกบริหาร เกทบอกมีเรื่องจะบอก3ข้อ ข้อแรก นอนไม่พอ ร่างกายไม่ค่อยโอเค เรื่องสอง ร่างกายแบบนี้แต่ดันไปต่อยกับเด็ก จนได้ดาเมจมาก เจ็บทั้งตัว โดยเฉพาะยอดหน้าที่โดนถีบมา สุดท้าย อะไรทุกสิ่งทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่คิด
แล้วก็หันมาบ่นกับอันสึจัง ปีก่อนก็เป๊นเหมือนกันนิ ไม่ว่าใครก็ทำตามใจ เป็นแค่ไอดอลแต่ดันมาขยับหมากบนกระดานตามใจชอบ มีแค่อันสึนี่แหละที่ทำตามเกท
เกท: คิดว่าน่ารักขึ้นมาเลย เอาล่ะ มาให้นอนหนุนตักซักหน่อย ล่อเล่นน่า อย่ามองด้วยสายตาเหมือนมองหนอนใกล้ตายแบบนั้นดิ ฉันไม่สนใจแกหรอก
ตัวเกทมีเป้าหมายเดียวคือ ก่อนที่ร่างกายนี้จะสลายไป ทำให้ความฝันที่ถูกลืมของ御大(แปลว่าหัวหน้าได้มั้งคะน่าจะหมายถึงก๊อดฟาเธอร์) แต่หัวหน้าที่ตายไปแล้วคงก็ไม่ลุกขึ้นมาชม ก็แค่ความพึงพอใจในตัวเองเท่านั้นแหละ ตัวเกทคิดว่าโลกนี้มันไม่มีอะไรมีความหมายหรอก แต่อันสึบอกไม่ใช่แบบนั้น ก่อนจบSSอันสึจะหาคำตอบมาให้ได้
อันสึต้องทำงานให้กับเกทแถมทำงานโปรดิวซ์ไม่ได้ เพราะเป็นค่าทดแทนที่ช่วยทริตสตาร์ออกจากป่า
เกทที่ปล่อยข่าวปลอมว่าคานาตะจะกลายเป็นพระเจ้า ถ้าเป็นหมอนั่นจะทำไง หมอนั่นอ่ะ มิเกจิมะ มาดาระ คนที่ถีบหน้าเกท หมอนั่นที่เดินทางไปทั่วโลกเพื่อทำลายลัทธิ แต่ที่เกาะทางใต้ดันเกิดลัทธินั้นคแขึ้นมาอีกรอบ หมอนั้นอาจจะบินไปที่โอกินาว่าเลยก็ได้นะ
ระหว่างที่มาดาระเคลื่อนไหวอย่างไร้ประโยชน์ ความลับของหัวหน้า ที่หมอนั้นตามหาอยู่ก็จะไหลออกมา นั้นเป็นแผนที่จะควบคุมมาดาระ นึกว่าปล่อยข่าวปลอมเรื่องคานาตะแบบนั้นหาจิอากิ จิอากิจะติดต่อกับมาดาะ แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นไปตามที่คิด
เกทตัดสินใจเลิกแทรกแซงที่โอกิน่าว่าไม่งั้นความน่าจะแตก แค่นี้โอกินาว่าก็เป็นไปตามที่เกทคิดไว้อยู่แล้ว ปล่อยไว้คงไม่เป๊นไร
ตัดไปที่วันรุ่งขึ้นตอนเที่ยง จิอากิติดต่อกับมาดาระ ผ่านโทรศัพท์ของคนในพื้นที่กันESเข้ามาแทรกแซง ว่าไม่ต้องเป็นห่วง จบที่เป็นแค่การเข้าใจผิดนิดหน่อย ตอนนี้ริวเซไตกับอาคาสึกิกำลังจัดงานแข่งตกปลากันอยู่ ทำไมถึงทำเรื่องไร้สาระแบบนี้หรอ อีเวนท์สงบสุขมันก็ดีกว่าสงครามอยู่แล้วไงล่ะ
บนเรือตกปลา โซมะใช้ดาบหั่นปลาเป็น3ชิ้นอย่างสวยงาม ทุกคนดูสนุกกับงานตกปลา ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อคลายความเครียดให้กันและกัน
ตอนนี้ความจริงแล้ว อาคาสึกิควรจะวิ่งไล่ท้าไลฟ์ชาวบ้านต่อไปเพื่อสะสมเงิน ที่โอกินาว่าเป็นกฏใครชนะก็ได้เงินไป ยิ่งชนะยูนิทแกร่งก็ยิ่งได้เงินเยอะ ตามแผนของESคือส่งไอดอลจากESมาเยอะๆเพื่อยึดพื้นที่ ใช้ไอดอลโอกินาว่าเป็นเครื่องสังเวย ตามที่เคย์โตะคิด น่าจะไม่ใช่แค่โอกินาว่า แต่ที่เขตอื่นก็คงเป็นเหมือนกัน เพื่อให้ESแสดงความแข็งแกร่งและถูกต้อง ยังดีที่นี้ถ้าแพ้แค่โดนยึดเงิน ไม่อยากจะคิดว่าเป็นการฆ่าฟันกันจริงๆจะเป็นยังไง
โซมะ ; การสู้รบกันทำให้เกิดผู้แพ้ ผู้ชนะ ในหมู่ผู้แพ้ก็เกิดความเลวร้าย ในหมู่ผู้ชนะก็เกิดความกลัวที่จะโดนแก้แค้น แล้วความรู้สึกเหล่านั้นก็เิพิ่มมากขึ้น ติดต่อไปเรื่อย จนเกิดเป็นการต่อสู้ที่ไม่สิ้นสุด
เคย์โตะพูดถึงสมัยสงคราม(สมัยเอย์จิภาคสึ) เพื่อไม่ให้เกิดแบบนี้ขึ้น เคย์โตะสมัยสงครามเลยเลือกสงครามที่จบได้เร็วที่สุด ถ้าโดนยืดเวลาเอย์จิอาจจะมีโอกาสตายได้ คานาตะไม่ค่อยโอเคที่พูดถึงสมัยนั้น ไม่ชอบเรื่องสมัยก่อนที่ไม่ว่าใครก็ไม่มีความสุขแบบนั้น
ทั้งคานาตะและโซมะ ไม่อยากจะทำซ้ำรอยสมัยสงคราม โซมะที่ตอนสมัยสงครามทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนดู แต่ตอนนี้ยืนอยู่บนเวทีเหมือนกับทุกคน คานาตะที่ไม่ใช่ทำเพื่อความปราถนาของใคร แต่ทำเพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการ
คานาตะเลยจัดการแข่งตกปลาขึ้น ไม่ใช่การต่อสู้ด้วยไลฟ์แต่เป็นการต่อสู้ด้วยการตกปลาที่ไม่ขัดแย้ง ไม่ใช่ไลฟ์เลยไม่โดนแย่งเงิน เหมือนรายการวาไรตี้ เหมือนการเล่นๆกัน เพื่อให้แฟนคลับที่เห็นห็นสามารถยิ้มได้อย่างธรรมชาติ
โซมะ : ข้าน้อยอยากทำอย่างงี้ เพื่อไปถึงปฏิหาริย์ที่ฮาซึมิโดโนะอยากได้ ไม่ใช่เพราะเป็นคำสั่งจากฮาซึมิโดโนะ แต่เป็นความปราถนาของข้าน้อยเอง
แล้วก็ตัดไปที่ไลฟ์ปิดม่านรอบคัดเลือก ถึงจะบอกว่าจะไม่ไลฟ์แล้วก็เถอะ แต่นี้เป็นไลฟ์ธรรมดา ไม่ใช่ไลฟ์ที่สู้กัน มิโดริบอกว่าคำสั่งของมิโดริง่ายๆคือห้ามแตะต้องไอ้นั่นที่รักมากๆเท่านั้นเอง จิอากิก็บอกว่าหมายถึงจิอากิหรอ ซึ่งไม่ใช่น่าจะหมายถึงยูรุคาเรกเตอร์น่ะแหละ ส่วนเทโทระคือห้ามใช้กำลัง ชิโนบุเป็นคนเดาถูกจากคำใบ้แค่ว่า “เทโทระไปพยายามห้ามโซมะ แต่การกระทำบแบนั้นกรรมการไม่ว่าอะไร”
ผ่านไปซักพักอาคาสึกิก็ขึ้นเวทีมา ที่ขึ้นมาช้าเพราะมัวแต่เถียงกับเคย์โตะ ที่ทำไมถึงไม่ได้ใช้ชุดที่คิริวเป็นคนทำแต่เป็นชุดที่ฝ่ายบริหารESเป็นคนทำล่ะ แต่ชุดนี้เป็นชุดที่ESขอให้คนในพื้นที่โอกินาว่าเป็นคนทำให้ คิริวคิดว่าเป็นเกรียติมากกว่า
แล้วก็พูดถึงคำสั่งลับ เหมือนเป็นคำสั่งที่มีไว้เพื่อควบคุมไอดอลแล้วให้ไอดอลทะเลาะกันเอง ตัวคำสั่งของเคย์โตะที่ให้โซมะเป็นคนเดินเกม ก็มีโอกาสสูงที่โซมะจะเข้าพวกกับพวกท๊อปริซซึ่มลิ้งแล้วทำตามที่ESต้องการสูง แต่รอดมาได้เพราะพรสวรรค์ที่ถูกเก็บไว้ของโซมะได้เปิดออกมา ใช้งานพวกท๊อปริซซึ่มริ้งแทน ถึงจะมีเรื่องริวเซไต แต่ตอนนี้พวกท๊อปริซซึ่มริ้งก็มาทำไรอาคาสึกิไม่ได้แล้ว
ส่วนคำสั่งของคิริวคือห้ามทำชุด เลยถ้าชนะผ่านรอบคัดเลือกได้คิริวจะได้ถูกปลดปล่อยใช้ชุดที่ทำเองได้ซะที
คิริว:เพราะงั้นเลยคลายเครียดด้วยการทำเสื้อไม่ได้ เลยร่างกายพังแบบนี้ไง ตอนนี้อยู่ต่อหน้าแฟนคลับเลยทำหน้าเหมือนไม่มีไรได้ แต่ถ้าล้มจริงๆล่ะก็โคตรเลวร้าย รีบๆทำเรื่องที่ควรทำดีกว่า เรื่องยากๆเด่วค่อยคิดหลังจากจบเรื่องก็ได้ บนสนามรบ คนที่ใจลอยน่ะจะตายเป็นพวกแรกๆ ถึงริวเซไตจะทำให้โอกินาว่าเป็นบรรยากาศสบายๆแล้ว จะเรียกว่าสนามรบก็ไม่ได้แล้วก็เถอะ
แล้วจิอากิก็เข้ามาดูเอทกับคิริวด้วย จนเทโทระงอนทำไมต้องแย่งของสำคัญของเทโทระด้วย ชิโนบุก็เข้ามาห้าม
ชิโนบุ : หวา … ไมค์ออนอยู่นะ อย่าพูดอะไรแบบนั้นสิเด่วก็ดราม่าอีกรอบหรอก อย่าไปมองโมริซาวะเซมไปเลย มองที่”ผม”คนเดียวก็พอ
คิริวที่เข้ามาแซวเคย์โตะให้เวทีครึกครื้นขึ้น จิอากิก็คิดในใจว่า
จิอากิ:สมกับเป็นคิริว นายไม่ว่าตอนไหนก็คิดจริงจังกับสิ่งที่เรียกว่าไอดอล ฉันก็เริ่มจากจุดนั้นเหมือนกันดีกว่า ไม่ได้มองกลับไปด้านหลัง พวกเราไม่ได้เสียอะไรไปซักอย่าง กลับไปเริ่มต้นใหม่แล้วเริ่มต้นเก็บเล็กเก็บน้อยขึ้นมาอีกครั้งดีกว่า ฉันเก่งเรื่องแบบนี้ ริวเซไตทุกคนก็ต้องพยายามกับฉันอยู่ เรื่องแบบนั้นน่ะรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว วันนั้น ที่มาช่วยฉันทำความสะอาด ภาพแบบนั้นไม่วันลืม ตอนนั้นฉันดีใจมากๆ สิ่งที่คอยมานาน ฮีโร่ที่รอคอยได้มาหาแล้ว
โซมะมาคุยกับคานาตะ ว่าคานาตะต้องการอะไร โซมะทำตามที่คานาตะบอกเปลี่ยนสงครามให้เป็นความสงบสุขอย่างกับรายการาไรตี้ตามคำสั่งขอคานาตะ คานาตะต้องการแค่ความสงบสุขจริงๆหรอ
คานาตะที่สามารถควบคุมริวเซไตได้ระหว่างที่จิอากิไม่อยู่ คำสั่งก็เป็นอะไรแบบนั้นด้วย จริงแล้ว เทโทระ มิโดริ ชิโนบุเป็นคนขับเคลื่อนริวเซไต ถ้าปล่อยให้เทโทระหรือจิอากิเป็นคุมคนเดียวมันไม่ไหวหรอก ไม่รู้ทำไมฝ่ายบริหารถึงสั่งอะไรแบบนี้ อาจจะลองทดลองให้คนที่ไม่ใช่รีดเดอร์เป็นคนรีดก็ได้
แล้วโซมะกับคานาตะก็คุยกันเรื่องตอนเด็กๆ โซมะเจอคานาตะครั้งแรกนึกว่าเป็นเด็กผู้หญิง แล้วการได้มาเจอกันที่ยูเมะซากิอีกครั้ง กับการได้อยู่บนเวทีเดียวกันเป็นเรื่องที่แปลกดี
คานาตะ:ถ้าพระเจ้ามีจริงละ่ก็ ทำไมถึงให้พวกเรามีชะตากรรมแบบนี้นะ ให้มาพบเจอกัน อยู่ชมรมเดียวกันและสนิทกัน อย่างน้อยถ้าคุณไม่ใช่เด็กดี ถ้าอย่างน้อยคุณเป็นดาบที่ดีสามารถฟันผมได้อย่างไม่ลังเลก็ดีน่ะสิ ถ้าเป้นแบบนั้นเรื่องก็จบโดยที่ไม่ต้องเจ็บปวดแท้ๆ น่าสงสารจริงๆนะ โซมะ
คานาตะบอกอีกว่าโซมะเป็นเด็กเข็มแข็งแต่ถึงจะเข้มแข็งขนาดไหนก็พังทลายได้อยู่ดี เป็นห่วงมากๆ ทั้งคานาตะทั้งโซมะ โดนตัดสินว่าเป็นพระเจ้าเป็นดาบ ทั้งๆที่เป็นมนุษย์เหมือนกันแท้ๆ การไม่ได้ถูกยอมรับว่าเป็นมนุษย์มันน่าสงสารมากๆ
ที่โอกินาว่าที่นี้ก็มีลัทธิเกิดขึ้นเหมือนกัน เหมือนเกิดอะไรบางอย่างขึ้น ผู้นับถือลัทธิที่เหลือรอดมาได้ หนีมาที่โอกินาว่าแล้วตั้งลัทธิขึ้นมาใหม่ ในถ้ำที่คานาตะไปก็มีบันทึกอยู่ เป็นบันทึกที่เขียนด้วยภาษาพระเจ้า แต่สำหรับคานาตะสิ่งที่เขียนอยู่ก็เหมือนนิทานหลอกเด็ก แต่ก็มีคนเชื่อแบบนั้นอยู่พวกเราไม่สามารถไปตัดสินอะไรพวกเค้าได้
ที่โอกินาว่านี้เกิดสงครามมาแล้วหลายรอบ เกิดการฆ่าฟันกัน เกิดโศกนาตกรรมมาแล้วหลายรอบ หลั่งเลือดของผู้เสียสละ เสียกรีดร้อง ความสิ้นหวัง ที่เกิดขึ้น ความรู้สึกร้ายๆเกิดขึ้นและในปัจจุบันก็ยังหลงเหลืออยู่ เป็นความจริงไหมไม่รู้ แต่ในนิทานมันเขียนไว้แบบนั้น แล้วมีคนเชื่อจริงๆ คนเหล่านั้นเลยมาขอร้องความช่วยเหลือจากอดีตพระเจ้าอย่างคานาตะ
คานาตะไม่สามารถมองผ่านการขอความช่วยเหลือแบบนั้นได้ ไม่ใช่เพราะตัวเองเคยเป็นพระเจ้า แต่เพราะตัวเองคือฮีโร่ อีกอย่างคานาตะรู้วิธีการเอาความรู้สึกชั่วร้ายนั้นออกไปด้วย ยิ้นด้วยใบหน้าที่ย้ิมแย้ม ทำเรื่องสนุกเยอะๆ เอาความรู้สึกด้านลบออกให้หมด เต้นร้องบนเวที นั้นคือเหตุผลที่คานาตะทำอีเวนท์แบบนี้
โซมะ : เต้นกันเถอะ ชินไคโดโนะ ร้องเถอะ เสียงเพลงที่เต็มไปด้วยความยินดี ไม่ใช่ในฐานะเทพเจ้าหรือดาบ แต่ในฐานะไอดอล ไปกับพวกพ้องที่รัก เพื่อทุกคนที่พวกเรารัก
คานาตะบอกว่า ตอนเด็กๆคานาตะกลัวพวกคนในลัทธิมากๆ มีแต่เด็กที่กอดดาบอย่างกับของสำคัญ ทักทายคานาตะด้วยร่างที่เซ แค่คุณคนเดียวที่คานาตะไม่กลัว น่ารักและชอบมาก
คานาตะ : ทั้งตอนนี้และอดีต ในอนาคตก็คงใช่ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยิ้มให้ผม เด็กทีน่ารัก โซมะ ตั้งแต่ได้พบครั้งแรก สำหรับผมแล้วเธอเป็นแบบนั้น แค่มองก็สนุกแล้ว เด็กดีที่ถูกใจ
จบค่า