【OS】You came in the form of greatest gift 🎁🎄🎄🎄
ท้องฟ้าสีเทาในวันที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานของเทศกาลช่างดูแล้วแสนขัดตา
อาจจะเหมือนกับเบน บาร์นส์ที่นั่งจิบกาแฟที่ยังมีควันอุ่นลอยโชยเพียงลำพัง ท่ามกลางเสียงสนทนาของผู้คนและเพลงป็อบประจำฤดูกาล ดวงตาคมเข้มมองตัวหนังสือบนหน้าจอแล็ปท็อปอยู่เนิ่นนานก่อนจะยอมรับว่าการมาทำงานที่ร้านกาแฟในวันคริสต์มาสมันไม่เข้าท่า แล้วพับหน้าจอปิดไปอย่างจำนน
เขารู้ว่าถ้าอยากให้งานเสร็จก็ควรปิดตัวเองอยู่บ้าน
แต่สถานที่ที่เคยอยู่ร่วมกันกับ ‘คนคนนั้น’ ดูเงียบเหงาอ้างว้างมากขึ้นอีกระดับในวันที่ผู้คนต่างใช้เวลาร่วมกับคนพิเศษ
ต่อให้ผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ใช่ว่าจะทำใจยอมรับกันได้ง่ายๆ
หนุ่มผมเข้มในวัยสามสิบตอนปลายทอดถอนหายใจแล้วเริ่มเก็บข้าวของ ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกถึงสายตาหวานฉ่ำคาดหวังจากหญิงสาวรอบกาย (มีแม้กระทั่งผู้ชาย) แต่เบนไม่มีกะจิตกะใจจะตอบรับไมตรีหรือให้ความหวังใคร ช่างต่างไปจากยามปกติที่อย่างน้อยคนอัธยาศัยดีอย่างเขาจะส่งยิ้มให้เสียหน่อย
ลมเย็นยะเยือกรอต้อนรับเขาทันทีที่ก้าวขาออกจากร้านกาแฟ โชคยังดีที่ผ้าพันคอสีชาหนานุ่มผืนโปรดของเขาช่วยบรรเทาความหนาวสั่นได้บ้าง รองเท้าบู้ตคู่หนาเหยียบย่างพาเจ้าของร่างสูงเพรียวมุ่งหน้าผ่านฝูงชนที่หลั่งไหลไปตามสองข้างถนน ส่วนสูงของเขาทำให้ชายหนุ่มยิ่งโดดเด่น และไม่มีอะไรจะมาบดบังสายตาได้ง่าย
หางตาคู่เรียวเหลือบเห็นเค้าร่างคนคุ้นตา แต่เบนก็ได้แต่ปลอบตัวเองว่าคงเป็นการเล่นตลกของแสงสี และหนึ่งในภาพหลอนที่ความปรารถนาจากก้านบึ้งของจิตใจสร้างขึ้นมา เขาผ่านจุดที่หุนหันวิ่งตามเงาของคนที่คล้ายแอนดรูว์มานานมากแล้ว
สิบปีที่จากกัน สิบปีที่ไม่อาจเปิดใจรับใครเข้ามาแทนที่
หากจะโทษว่าเป็นเพราะความหุนหันที่ตีตราผูกมัดแอนดรูว์ไว้ด้วยพันธะชั่วชีวิต เบนก็ไม่เคยเสียใจภายหลัง
เราพบกันครั้งแรกในวันคริสต์มาส และจากกันในวันคริสต์มาสอีฟในปีถัดมา
ช่วงเวลาเกือบหนึ่งปีที่ได้ใช้ร่วมกันนั้นมากพอจะทำให้หัวใจของเขาเชื่อมั่นอย่างไร้ข้อกังขาว่านี่คือคนที่จะจับมือเดินร่วมทางกันไปตลอดชีวิต
แต่ดูเหมือนว่าหนึ่งปีของเบนจะยังไม่มากพอสำหรับการรู้จักตัวตนของคนคนหนึ่ง
‘แอนดรูว์’ ที่เขาอยู่ร่วมกันมาหนึ่งปี เป็นเหมือนกล่องปริศนาที่เมื่อได้เปิดออกแล้วก็จะหายไป
ความโรแมนติคในตัวเบนทำให้เขานึกถึงเคราะห์กรรมแห่งรักของคิวปิดและไซคี หากว่าเขาไม่ใคร่รู้สิ่งที่อีกฝ่ายปิดบังไว้ ก็คงจะไม่ต้องถูกพรากจากกันเช่นนี้ ไซคียังโชคดีที่ได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง แต่สิ่งที่โอเมก้าของเขาเหลือไว้ให้เบนมีเพียงภาพความทรงจำและข้าวของของเจ้าตัว....ไปแต่ตัวราวกับจะให้ความหวัง ราวกับจะบอกให้รอ
แล้วคนโง่อย่างเขาก็รอมานานถึงแปดปี
รอของขวัญคริสต์มาสที่เฝ้าภาวนาและวอนขอมาเนิ่นนาน
กว่าจะรู้สึกตัวว่าเดินเหม่อมาไกลแค่ไหน เท้าของเบนก็มาหยุดอยู่ตรงสวนสาธารณะที่โล่งแจ้งแทบไร้ผู้คน พายุหิมะเมื่อคืนวานทำให้พื้นที่แห่งนี้ถูกปรกคลุมด้วยสีขาวโพลนราวกับโลกแห่งความฝัน ยังนับว่าดีที่มีพนักงานกวาดหิมะกรุยทางเดินจนไม่เป็นปัญหาสำหรับผู้คนที่สัญจรไปมา
เบนตรงไปยังที่ประจำของตัวเอง เปียโนหลังใหญ่ที่ตั้งไว้กลางลาน ต่อให้อายุของมันจะมากกว่าสิบปีแล้วแต่ก็ยังได้รับการดูแลอย่างดี ชายหนุ่มถอดถุงมือหนัง กดนิ้วลงไปบนแป้น เสียงที่เปล่งออกมาอาจจะไม่ได้ดีเท่าเปียโนในบ้านเขา แต่การได้เห็นว่ามันยังอยู่ที่เดิมทำให้เบนหลอกตัวเองได้ว่าช่องว่างตลอดเวลาแปดปีที่เกิดขึ้นไม่เคยมีอยู่จริง เหมือนคนรักของเขาไม่เคยจากไป
หิมะอาจจะหยุดตกไปแล้ว แต่กองหิมะที่ถาโถมกองสูงรอบด้านก็ยังคงนำพาความหนาวเย็นจับใจมาให้ได้ การนั่งดีดเปียโนกลางแจ้งในวันที่อากาศหนาวเป็นความบ้าบิ่น ถึงอย่างนั้นความคะนึงหาที่ล้นเอ่อทุกครั้งที่กลับมายังที่แห่งนี้ก็สั่งให้เบน บาร์นส์ทำสิ่งที่ตัวเองในยามปกติต้องด่าว่าบ้าแน่ๆ
เขากำลังทำสิ่งเดียวกันกับแอนดรูว์
วันแรกที่เบนได้พบกับคนคนนั้น เสียงเปียโนที่เต็มไปด้วยท่วงทำนองสนุกสนานได้ดึงดูดเขาให้เดินเข้าหา โอเมก้าหนุ่มผมน้ำตาลเจ้าของรอยยิ้มอันอบอุ่นเจิดจ้า และสุ้มเสียงหวานละมุนค้ำจุนจิตใจเบนที่หมดศรัทธาในสิ่งใด การกระทำที่ทำไปตามแต่ใจตัวเองของแอนดรูว์ช่างแตกต่างจากรูปแบบการใช้ชีวิตของเบน ทว่าความแตกต่างนี้เองที่กอบกุมหัวใจเขาไว้ได้
ผู้ชมในวันนั้นของแอนดรูว์มีแต่เขา ส่วนเบนไม่ได้สนใจว่าใครจะมารับรู้ตัวตนของเขา แต่ทันทีที่เล่นจบเพลง เสียงปรบมืออย่างกระตือรือร้นของคนคนหนึ่งก็ทำให้เขาเงยหน้าขึ้นจากเปียโน ณ อัฒจันทน์ที่เขาเคยนั่งมองแอนดรูว์เล่นดนตรี มีเด็กหญิงตัวน้อยในชุดแซนตี้ขนฟูฟ่องนั่งชม ดวงตาสีน้ำตาลใสทอประกายชื่นชม ลักยิ้มที่แก้มบุ๋มเพิ่มความน่าเอ็นดูจนแม้แต่เบนยังอดยิ้มตามไม่ได้
“เล่นอีกสิคะ คุณลุง”
เด็กหญิงตัวน้อยร้องขออย่างน่ารัก เสียงใสเจื้อยแจ้วเหมือนระฆังใบจ้อย เมื่อเธอเห็นว่าเบนยังนิ่งอยู่ เด็กหญิงก็นึกว่าเขาไม่ได้ยิน จึงได้กระโดดลงจากม้านั่งอย่างรวดเร็วจนน่าใจหายแล้ววิ่งด้วยขาสั้นป้อมตรงมาเกาะเก้าอี้ของเขา
เบนต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่รู้สึกว่าเด็กคนนี้มีดวงตาเหมือนคนที่เขาแสนคิดถึงราวกับพิมพ์เดียว
“เล่นอีกได้มั้ยคะ คุณลุงเล่นเพราะมากเลย เพราะกว่าป่ะป๊าอีก”
ถึงจะพูดว่าพ่อตัวเองแบบนั้น แต่หน้าตาน่ารักราวกับนางฟ้าน้อยในวิหารก็ทำให้เบนกังขาว่าพ่อแม่ของเด็กหญิงจะโกรธได้ลงคอหรือเปล่า อย่างน้อยเขาก็คนหนึ่งแล้วที่ทำไม่ลง
“หนูอยากฟังเพลงอะไรล่ะคะ”
เด็กหญิงเอียงคอก่อนจะตอบด้วยความมั่นใจ “Twinkle Little Star ค่ะ”
แม้ว่าตอนนี้จะยังเป็นตอนกลางวัน แต่เบนที่หลงไปกับใบหน้าและดวงตาที่ชวนให้นึกถึงคนในใจก็ทำตามใจเด็กหญิง เขายังแอบปรับเปลี่ยนให้มันสนุกสนานขึ้นเพื่อเด็กหญิงที่เริ่มร้องตามทำนอง พวกเขาใช้เวลาอยู่ร่วมกันเช่นนั้นจนกระทั่งเริ่มมีคนเข้ามาร่วมวง ส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยเดียวกันกับสาวน้อยผู้ย้ายมานั่งบนเก้าอี้ตัวเดียวกันกับเบน และแม่บ้านพ่อบ้านโอเมก้าที่พาลูกมาเดินเล่น ทำเอาเบนคิดไม่ถึงว่าวันนี้เขาจะมาทำอะไรแบบนี้ได้
“น่ารักจังเลยนะคะ คุณพ่อกับลูกสาวเล่นเปียโนด้วยกันแบบเนี้ย”
แม่บ้านที่มุงดูเริ่มเอ่ยชมทั้งที่ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบาง เบนกำลังจะเอ่ยแก้ความเข้าใจผิด แต่เด็กหญิงก็เริ่มวางนิ้วตามเขา เลียนแบบด้วยการสังเกตเพียงครั้งเดียว ช่างเป็นอะไรที่น่าทึ่งจนเขาเตะส่งความคิดที่อยากจะอธิบายกับแก๊งค์แม่บ้านทิ้งไปเลย
ต้องออกตัวก่อนว่าเพลงที่เขาเล่นนั้นเป็นแบบดัดแปลงใหม่ ไม่ใช่ว่าทุกคนที่เคยเรียนเล่นเพลงนี้จะทำได้โดยมองแค่หนเดียว
นี่เขากำลังอยู่กับเด็กอัจฉริยะทางดนตรีหรือเปล่า
“คุณลุงเก่งจังเลยค่ะ พอเปลี่ยนมาเล่นแบบนี้ก็ฟังสนุกขึ้นเยอะเลย”
เด็กหญิงเอ่ยชมพร้อมกับพรมมือเล็กจ้อยไปตามแป้น แต่เด็กอย่างไรก็เป็นเด็ก แขนสั้นๆของเธอเอื้อมไม่ถึงแป้นที่อยู่ปลายสุดอีกข้าง เบนที่มีใจเอ็นดูเด็กหญิงมากขึ้นไปทุกทีตามประสานักดนตรีก็ข่วยเธอจนกลายเป็นการเล่นประสานกัน เขาคอยเสริมในส่วนที่เด็กหญิงขาดไป ระหว่างนั้นก็ลอบสำรวจเด็กน้อยไปในตัว
เส้นผมหยักศกสีดำยาวถูกรวบเป็นเปียอยู่กลางหัว ปล่อยชายที่เหลือลงปรกถึงกลางหลัง ฮู้ดแซนตี้สีแดงและขนแกะนุ่มฟูเป็นของราคาแพง ผิวพรรณขาวเนียนแทบไร้รอยมลทิน ปากกระจับเล็ก และดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนที่แสนอ่อนโยนคู่นี้ ดูอย่างไรก็เหมือนแอนดรูว์ ต่างก็เพียงแค่สีผมและโครงหน้า
เบนเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าทำไมแก๊งค์แม่บ้านถึงเข้าใจผิดไปได้….
ถ้าเขากับแอนดรูว์มีลูกสาว ก็อยากจะให้ออกมาน่ารักแบบเด็กคนนี้
“คุณหนู อย่าอยู่ดีๆก็วิ่งหายไปเองแบบนี้สิครับ”
ช่วงเวลาแห่งความสุขของพวกเขาจบลงพร้อมกลุ่มชายชุดสูทเคร่งขรึม ขัดแสนขัดสำหรับงานเทศกาลอันรื่นรมย์ เด็กหญิงข้างตัวเบนถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะยืนขึ้นบนเก้าอี้แล้วท้าวเอวมองกลุ่มเบต้าชายที่แหวกกลุ่มแม่บ้านและเด็กๆเข้ามายืนทำหน้ากระอักกระอ่วนใส่สิ่งมีชีวิตที่ตัวเล็กแต่ใจกล้าผู้นี้
“พวกพี่ผิดเองต่างหากที่ตามไม่ทัน หนูเดินวนอยู่ที่เดิมตั้งนานก็ไม่เห็นใครเลย”
กลายเป็นความผิดของผู้ใหญ่ที่ทำเด็กหายเองเสียได้....เบนนึกเห็นใจเบต้าชายกลุ่มนี้จากใจจริง แต่เขาก็ต้องเก็บความปรารถนาดีนั้นไว้เมื่อพวกเขาเหล่านั้นพุ่งสายตามามองเขาอย่างระแวง
“คุณเป็นใคร คิดจะทำอะไรกับคุณหนูของเรา”
“พูดดีๆกับคุณลุงสิคะพี่แจ็ค” ไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไรที่ถูกเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่งปกป้อง แต่ก็นับว่าดีแล้วที่เขาไม่ต้องออกตัวอธิบายอะไรมาก เมื่อเด็กหญิงจัดการคนของตัวเองเสร็จสรรพ “หนูแค่ตามเสียงเปียโนของคุณลุงคนนี้มา เผื่อว่าพวกพี่จะได้หาหนูเจอง่ายๆ เขาช่วยเราไว้แท้ๆ ทำไมต้องพูดจาเหมือนหาเรื่องแบบนี้ด้วยล่ะ”
“เราไม่ได้จะหาเรื่องนะครับ พวกเราก็แค่เป็นห่วง ถ้าคุณท่านรู้เรื่องเข้า---”
“พวกเราก็แค่เล่นเปียโนด้วยกันระหว่างรอพวกพี่มารับ ไม่จำเป็นต้องให้ป่ะป๊ารู้อะไรที่ไม่จำเป็นหรอกค่ะ”
“...เหรอ คนเป็นพ่อไม่จำเป็นต้องรู้ว่าลูกสาวตัวเองอยู่ที่ไหน ทำอะไรกับใครแล้วเหรอคะ”
เมื่อเหล่าเบต้าชายแหวกเปิดทางให้เจ้าของเสียง เบนก็ถึงกับต้องหยิกตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่ภาพฝันเฟื่อง เขาเบิกตาจ้องร่างสูงเพรียวของโอเมก้าหนุ่มในชุดสูทสีอ่อนที่เดินใกล้เข้ามา คนพูดยังไม่ละสายตาจากโทรศัพท์ จึงไม่ได้สังเกตสายตาที่มองราวกับไม่อยากเชื่อของเบน แต่เมื่อในที่สุดเจ้าตัวก็เงยขึ้นมาส่งยิ้มหยอกเย้าลูกสาว คนที่นั่งอยู่ข้างตัวสาวน้อยของเขาก็ทำให้คุณพ่อของเด็กหญิงแทบลืมวิธีหายใจ
“....เบน”
เสียงที่แสนคิดถึง ใบหน้าที่อยู่ในห้วงคะนึงเนิ่นนานเป็นแรมปี
โอเมก้าที่ทิ้งเขาไปโดยไม่มีแม้แต่คำอธิบาย
“คุณลุงชื่อเบนเหรอคะ” สาวน้อยที่อยู่ตรงกลางระหว่างพ่อและอัลฟ่าหนุ่มมองสลับไปมาระหว่างคนที่สอง ก่อนจะยิ้มกว้าง “สวัสดีค่ะ หนูชื่อเซซิเลีย การ์ฟิลด์ เรียกว่าซีซี่แบบป่ะป๊าก็ได้ค่ะ”
ชื่อของเด็กหญิงเพราะพริ้งเหมือนเจ้าตัว เบนจะไม่ประหลาดใจเลยถ้านั่นไม่ใช่ชื่อที่เขาและแอนดรูว์เคยคุยกันว่าจะตั้งให้ลูกในอนาคต ประกอบกับรูปหน้า แววตา สีผม และรอยยิ้มที่อบอุ่นดั่งดวงอาทิตย์น้อยๆ เขาก็ยิ่งปะติปะต่อเรื่องราวเข้าข้างตัวเองมากขึ้นทุกที
หรือพระผู้เป็นเจ้าจะประทานปาฏิหาริย์วันคริสต์มาสให้กับผู้ศรัทธาที่อดทนรอเสียที....
“สวัสดี ซีซี่...”
ก่อนที่จะทันได้รู้สึกตัว เบนก็รวบร่างเล็กจ้อยเข้าสู่อ้อมกอด ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าความผูกพันเมื่อแรกพบหน้าคืออะไร เด็กหญิงตกใจอยู่เล็กน้อยแต่ก็กอดตอบเขาและลูบแผ่นหลังปลอบโยน ทันใดนั้นหยาดน้ำตาที่ข่มกลั้นไว้ก็พร่างพรู เบนไม่เคยรู้สึกว่าการร้องไห้เสียน้ำตาเป็นเรื่องน่าละอาย ยิ่งคนที่มอบความปรารถนาดีนี้ให้คือหลักฐานความรักของเขากับแอนดรูว์ การได้โอบกอดเธอไว้ ได้สัมผัสถึงเลือดเนื้อและไออุ่น ยิ่งเป็นการยืนยันว่าเขาไม่ได้ฝันไป
“อ๋า คุณลุง ร้องไห้ใหญ่เลย เป็นอะไรกันไปหมดคะ เนี่ยป่ะป๊าพอถึงช่วงคริสต์มาสทีไรก็ชอบแอบไปนั่งร้องไห้คนเดียว วันดีๆแบบนี้ต้องยิ้มเข้าไว้สิคะ”
คนที่เผลอขายพ่อตัวเองแบบไม่ตั้งใจยังคงตั้งหน้าตั้งตาปลอบโยนอัลฟ่าตัวโต ส่วนแอนดรูว์ที่ตั้งสติและควบคุมหัวใจที่เต้นระส่ำกลับมาเป็นปกติได้แล้วก็ก้าวขาเดินต่อไปจนมานั่งบนเก้าอี้ตัวเดียวกันกับเบนและลูกสาว ทันทีที่สะโพกแตะแผ่นไม้ เบนก็ยื่นแขนมารวบร่างโอเมก้าของเขาเขาไปร่วมวงกอดแนบแน่น แอนดรูว์ขยับตัวอย่างประหม่า ระวังไม่ให้ลูกโดนบี้อยู่ระหว่างพวกเขา แล้วจึงสวมกอดกลับไป ซุกหน้าบนหัวไหล่คนที่หัวใจไม่เคยลืม
“ขอโทษที่หายไปนาน ผมกลับมาแล้วนะครับ....”
แทนคำตอบรับนั้น เสียงร้องไห้ของเบนยิ่งดังลั่นจนคนมุงทั้งหลายซุบซิบกันไปใหญ่โต โอเมก้าหนุ่มอับจนหนทาง เบนของเขาเป็นพวกความรู้สึกละเอียดอ่อนและอ่อนไหวง่ายสมกับที่เป็นนักดนตรี คงต้องใช้เวลาปลอบใจและอธิบายเหตุผลของทางฝั่งเขาไปอีกสักพักใหญ่
ถึงจะผิดแผนไปเยอะอยู่บ้างเพราะเบนไม่อยู่บ้านในวันคริสต์มาส แต่พระผู้เป็นเจ้าคงจะยังพอเมตตา ถึงได้ดลให้เขากับคนคนนี้ได้พบกันอีกครั้ง ในที่สุดก็ไม่ต้องบ่ายเบี่ยงเวลาลูกสาวถามหาผู้ให้กำเนิดอีกคนหนึ่ง วันที่ทุกอย่างเป็นใจให้เราได้กลับมาเป็นครอบครับเดียวกันอีกครั้ง
“ซีซี่”
เจ้าของชื่อเล่นเงยหน้าตามเสียงเรียกของป่ะป๊า แม้ว่าปกติป่ะป๊าจะมองเธอด้วยดวงตาที่แสนอ่อนโยนมาตลอด แต่สายตาที่ป่ะป๊ามอบให้คุณลุงคนนี้นั้นพิเศษอย่างมาก ไม่มีครั้งไหนเลยที่มันจะเต็มไปด้วยความรักความคะนึงหาอย่างเปี่ยมล้นเท่าในเวลานี้
“หนูว่าอะไรไหมถ้าพ่อจะขออนุญาตแต่งงานกับคุณลุงคนนี้”
.
End
Merry X’mas 2021 ค่า 🎄🎊💕